เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮาสนั่นโลกโซเชียลไม่น้อย เมื่อร้านบุฟเฟต์แห่งหนึ่งในกรุงฮานอย ของเวียดนาม ได้โพตส์แฉพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มหนึ่ง ที่แอบยัดอาหารใส่กระเป๋าไปมากกว่า 10 กิโลกรัม! โดยเมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา มีลูกค้าจำนวน 7 คนมาทานบุฟเฟต์ที่ร้าน โดยพวกเขาเลือกทานในราคาหัวละ 409,000 ดอง หรือราว ๆ 590 บาท ซึ่งในราคานี้จะสามารถทานอาหารทะเลได้แบบจัดเต็ม
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสังเกตว่าลูกค้ากลุ่มนี้แวะมาตักอาหารทะเลหลายครั้ง แต่เมื่อถึงคราวเคลียร์โต๊ะกลับไม่พบเศษซากอาหารใด ๆ พนักงานจึงนำเรื่องไปแจ้งให้เจ้าของร้านทราบ พร้อมตรวจเช็กภาพกล้องวงจรปิด และพบว่าหนึ่งในลูกค้ากลุ่มนี้แอบทำพฤติกรรมสุดน่าอับอาย
เมื่อถึงเวลาชำระเงิน ทางพนักงานได้ขอตรวจค้นกระเป๋าสะพายของลูกค้าคนดังกล่าว ในตอนแรกลูกค้าได้ปฏิเสธ พร้อมอ้างว่าภายในกระเป๋ามีแต่เสื้อผ้า ทางร้านจึงงัดหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดมาแย้ง ทางลูกค้าจึงยอมจำนน
โดยภายในกระเป๋าเต็มไปด้วยอาหารทะเล มีน้ำหนักราว 10 กิโลกรัม ทางร้านได้ดำเนินการปรับเงินตามกฎระเบียบ แต่ทางลูกค้าปฏิเสธที่จะจ่ายจึงมีปากเสียงกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย สุดท้ายลูกค้าจึงยอมจ่ายค่าปรับ
ต่อมา น.ส.ที หัวหน้าของ น.ส.บี (ผู้แอบนำอาหารใส่กระเป๋า) ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ พร้อมชี้แจงอีกมุมว่า วันเกิดเหตุ เธอเป็นฝ่ายชวนลูกน้องมากินเลี้ยงที่ร้านบุฟเฟต์แห่งนี้เอง โดย น.ส.บี ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ มีภูมิหลังน่าสงสาร พ่อจากไปตั้งแต่เด็ก ครอบครัวยากจนและมีลูกหลายคน จึงไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ
นี่เป็นครั้งแรกที่ น.ส.บี ได้ทานบุฟเฟต์ แต่เพราะอ่านหนังสือไม่ออก น.ส.บีจึงไม่เข้าใจกฎ เมื่อเห็นว่ามีอาหารเหลือจึงอยากนำกลับไปฝากครอบครัว แต่เนื่องจากไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าปรับ ดังนั้น น.ส.ที จึงเป็นฝ่ายจ่ายค่าปรับแทน ทั้งนี้ น.ส.ที ได้วิพากษ์วิจารณ์การกระทำของร้านบุฟเฟต์ เนื่องจากเธอได้ทำการชำระค่าปรับเรียบร้อยแล้ว แต่เหตุใดทางร้านจึงยังนำภาพมาโพสต์ลงโซเชียล ทำให้พวกเธอเสื่อมเสียชื่อเสียงเช่นนี้
ฉันยอมจ่ายค่าปรับ 6 ล้านดอง (ราว 8,600 บาท) สำหรับค่าอาหารทะเลที่ลูกน้องแอบเอากลับบ้านไปแล้ว แต่ทำไมร้านอาหารถึงยังเอาภาพของเราไปโพสต์บนโซเชียล ทำเราเสื่อมเสียชื่อเสียงจนส่งผลกระทบต่อชีวิตเรา ซึ่งตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ บีได้ขอโทษฉันไม่หยุดที่ทำให้ฉันได้ผลกระทบ” น.ส.ที กล่าว