เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2567 เวลา 13.00 น. น.ส.ฉัตรมงกต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี พร้อม ด.ช.เอ (นามสมมติ) ลูกชาย อายุ 13 ปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด ร้องเรียน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด
หลังจากถูกแก๊ง ตี๋ ท่าทราย หัวหน้าแก๊งทรายทอง และพวกรวม 7 คน รุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ดั้งหัก แก้วหูแตก เลือดช้ำในปอด และบาดแผลอื่น ๆ ตามร่างกาย โดยแพทย์มีความเห็นว่า ต้องมีการผ่าตัดเพื่อรักษาเพิ่มเติมภายหลัง ด.ช.เอ กล่าวว่า…
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งภายในซอยสามัคคี เนื่องจาก แก๊งทรายทอง มีการนัดหมายให้ตนไปพูดคุยเพื่อเคลียร์ปัญหาระหว่างเพื่อนสาวของตนกับแฟนเก่าที่เป็นคนภายในแก๊ง
ด.ช.เอ กล่าวต่อว่า แต่เมื่อไปถึงไม่สามารถเจรจาได้ หัวหน้าแก๊งสั่งให้ชกต่อยกันตัวต่อตัว แต่ไม่ทันได้ต่อยกลับถูกแก๊งดังกล่าวรุมทำร้าย เตะเข้าที่ใบหน้า 2 ครั้ง บังคับให้นอนก่อนจะถูกรุมทำร้าย
ด.ช.เอ กล่าวอีกว่า พร้อมกับบังคับห้ามบอกผู้ปกครอง แต่ให้บอกว่าได้รับบาดแผลจากอุบัติเหตุรถล้ม แต่แม่ของตนไม่เชื่อ จึงพาไปรักษาและคาดคั้นจนตนเล่าความจริงให้แม่ฟัง ซึ่งแก๊งดังกล่าวชื่อว่า แก๊งทรายทอง โดยมี นายตี๋ ท่าทราย เป็นหัวหน้าแก๊ง อายุ 18 ปี มีสมาชิกกว่า 10 คน ทั้งหมดอายุไม่เกิน 18 ปี ต่ำสุดอายุ 12 ปี ซึ่งแก๊งนี้จะมีพฤติกรรมนำเรื่องราวต่าง ๆ มาเล่าให้ตนฟัง
ด.ช.เอ กล่าวต่อว่า พร้อมนำภาพถ่ายคลิปวีดีโอที่รุมโทรมหญิงรายหนึ่งในพื้นที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ มาเปิดโชว์ เพื่อข่มขู่ รวมทั้งยังมีการกล่าวอ้างว่า ได้มีการทำร้ายร่างกายและตัดนิ้วคู่อริ
ด้าน น.ส.ฉัตรมงกต กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุตนได้รวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งได้ไปเจรจากับแก๊งที่ทำร้ายลูกของตน ซึ่งหนึ่งในสมาชิกแก๊งยอมรับกับตน ตามคลิปเสียงที่ปรากฏ แต่เมื่อตนนัดหมายให้ออกมาเจอเพื่อล่อให้ตำรวจจับ กลุ่มผู้ก่อเหตุกลับไม่มาตามนัด
น.ส.ฉัตรมงกต กล่าวต่อว่า จากนั้นจึงได้ข่มขู่ลูกของตนผ่านไลน์กลุ่ม ว่า “ถ้ากูไม่ติดคุก มึงก็ต้องตาย” พร้อมกับโชว์ถังน้ำมันขนาด 100 ลิตร ข่มขู่ว่าจะเผาบ้าน ทำให้ตนและลูกเกิดความหวาดกลัว ทั้งนี้ ยืนยันว่า จากเหตุการณ์นี้หากไม่มีใครช่วยเหลือดำเนินคดี ฆาตรกรคนต่อไปก็คงเป็นตน
นายเอกภพ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการสั่งการให้ทลายแก๊งเยาวชนที่มีการก่อเหตุรุนแรงในลักษณะนี้ทั่วประเทศ ดังนั้นกฎหมายก็ควรที่จะเอาผิดกับเยาวชนได้อย่างเต็มที่ เพราะพฤติกรรมของแก๊งนี้มีลักษณะคล้ายกับกรณีที่อรัญประเทศ ที่ก่อเหตุหลายครั้งแต่ยังไม่ถูกจับกุม ซึ่งวันนี้ตนจะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า
