กลายเป็นดราม่าในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ถึงปัญหาระหว่างชุมชนกับโรงเรียนในพื้นที่ บางช่วงระบุว่า… โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา มานานกว่า 30 ปี ผลิตเด็กให้มีความรู้ความสามารถ เป็นผู้ใหญ่ในอนาคตนับไม่ถ้วน ช่วยดูแลอย่างดี
คุณครูก็ใช้วิธี เป่านกหวีด จัดการการจราจร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ เป็นการส่งสัญญาณ ให้รถไป ให้รถหยุด มาโดยตลอด และคิดว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่โรงเรียนทำดีและทำถูกต้อง
แต่กลับโดนหมู่บ้านร้องเรียนเรื่องการใช้นกหวีด ว่าเสียงดัง ทำให้เสียสุขภาพจิต ให้เปลี่ยนไปใช้สัญญาณไฟแทน ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้กล่าวอีกว่า ก่อนจะซื้อบ้านก็น่าจะทราบดีว่าอยู่ติดกับโรงเรียน ซึ่งจะมีเสียงรบกวนตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นในช่วงเปิดเทอม
ขณะที่มีผู้มาคอมเมนต์ระบุว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีการก่อสร้างโรงเรียนได้รับผลกระทบเรื่องรถบรรทุกที่เข้ามาถมดินในโครงการในช่วงเวลาที่นักเรียนต้องมาโรงเรียน
ครูก็อำนวยความสะดวกให้ต่างๆ ทำไมโรงเรียนไม่เคยร้องเรียนคุณเลย นั้นเพราะเรามองเห็นการเปลี่ยนแปลงและโรงเรียนต้องปรับตัวเหมือนที่ครูได้เล่าให้ฟังทุกอย่างที่โรงเรียนมีกิจกรรมเราถูกร้องเรียนหมดครับ แต่เราเลือกที่จะเงียบแค่นั้นเอง
และระบุว่า เสียงนกหวีดจะหายไปปิดถนนข้างโรงเรียนกลับไปใช้เส้นทางเดิมเหมือนเมื่อก่อน วนขวาไปไม่มีถนนตรงนี้เราก็อยู่ได้นักเรียนข้ามถนนได้ปลอดภัยครูไม่ต้องเป่านกหวีด
นักเรียน ครูปลอดภัย เพื่อลดแรงกระแทกของผู้พักอาศัยเพียงคนเดียว แต่เขาต้องตอบสังคมให้ได้ครับ ว่าต้องการเช่นนั้นไหม ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าโรงเรียนดังกล่าวอยู่ในย่าน ถนนไทยรามัญ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร