เรียกได้ว่ากลายเป็นไวรัลถกสนั่น เมื่อมีหญิงรายหนึ่งออกมาแชร์ประสบการณ์ที่ตนรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค เผยว่า… พาแฟนหนุ่มมีอาการปวดหัว ไปรักษาที่ รพ.เอกชน แห่งหนึ่ง โดนค่ารักษากว่าครึ่งแสน โดยไม่แจ้งรายละเอียดก่อนรักษา
โดยเธอขอสงวนชื่อ โรงพยาบาลเอกชน ดังกล่าว เนื่องจากจะมีการนัดเพื่อพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งเธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อปรึกษาขอคำแนะนำจากเน็ต โดยหญิงสาวรายนี้ เล่าว่า… แฟนชาวต่างชาติ ของเธอ มีอาการปวดศีรษะ จึงตัดสินใจพาไปเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลเอกชน แห่งหนึ่ง
ซึ่งตัวเธอทราบแต่แรกอยู่แล้วว่าค่ารักษาจะค่อนข้างสูง และรับได้ เมื่อคิดเงินออกมา ก็พบว่าค่ารักษาสูงจริง ๆ โดย ค่ารักษาเป็นเงินกว่าครึ่งแสน เจ้าตัวเผยว่า เข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติในการเข้าโรงพยาบาลเอกชน ทว่า เมื่อลองเช็กความถูกต้องของรายการที่ต้องจ่าย กลับพบว่ามีข้อมูลที่ผิดพลาดจำนวนมาก อาทิ
บางรายการทางโรงพยาบาล คิดค่าบริการเกินจำนวนการรักษา เช่น เธอใช้ไปเพียง 1 แต่กลับคิดเงินถึง 3 จึงตัดสินใจทักท้วงรายละเอียดที่ผิดกับทางโรงพยาบาล โดยทางโรงพยาบาลรับผิด ขอโทษ และแก้ไข้ให้ บางรายการมี ค่าบริการสูงมาก ซึ่งทางโรงพยาบาลไม่ได้แจ้งก่อนทำการรักษา โดยเธอเผยว่า บางรายการแจ้ง บางรายการไม่แจ้ง มีบางรายการนำเอกสารรับทราบราคาให้ แต่บริการรักษาที่ราคาสูงมาก กลับไม่แจ้งให้คนไข้และผู้ติดตามทราบเลย
โดยให้เหตุผลว่า ไม่ได้แจ้งเพราะคนไข้อยู่ในภาวะวิกฤต ซึ่งเธอย้ำว่า แฟนเธอปวดหัว เวียนหัว ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร แต่สามารถพูดคุย เดิน หัวเราะ และตัดสินใจได้ ยิ่งไปกว่านั้นตัวเธอก็อยู่ด้วยตลอด ก่อนจะทิ้งท้ายขอคำปรึกษาจากชาวเน็ตว่าทุกคนคิดเห็นอย่างไร สำหรับตัวเธอ เธอรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง พร้อมย้ำว่า อย่างน้อยควรแจ้งราคาค่ารักษาให้คนไข้หรือญาติได้ทราบก่อน
ท่ามกลางชาวเน็ตที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นถกเดือดสนั่น คอมเมนต์ส่วนใหญ่มองว่า ทางโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว ควรแจ้งรายละเอียดและค่าบริการให้คนไข้หรือญาติ ผู้ติดตาม ทราบก่อนที่จะทำการรักษา บางคอมเมนต์ถึงขั้นจวกแรงว่า การกระทำเช่นนี้เหมือนเป็นการมัดมือชก มาเรียกเก็บเงินและอ้างว่าให้การรักษาไปแล้ว รวมไปถึงแนะนำให้เจ้าของโพสต์ปรึกษาทนายเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย
ขณะที่บางคอมเมนต์เผยว่า คิดจะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ต้องทำใจยอมรับค่าบริการให้ได้ว่าจะสูงกว่าปกติ และจะโรงพยาบาลรัฐฯ หรือ โรงพยาบาลเอกชน ก็ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าก่อนรักษาอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี มีหลายคอมเมนต์ที่อยากให้ทางโรงพยาบาลออกมาชี้แจงอีกมุม โดยเรื่องราวจะจบลงอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป
