สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน หญิงสาวรายหนึ่งรู้ว่าตัวเองถูกรับมาเป็นบุตรบุญธรรม แม้ว่าเธอจะสุขสบายและครอบครัวบุญธรรมดูแลเธอเป็นอย่างดี แต่งงานกับสามีที่ดี แต่เธอไม่เคยลืมบุญคุณของพ่อแม่ตัวจริงที่ทำให้เธอเกิดมาลืมตาบนโลกใบนี้
ดังนั้น เธอจึงตามหาครอบครัวเดิม เพราะเธอเชื่อว่าพ่อแม่ทอดทิ้งเธออาจเป็นเพราะสภาพครอบครัวที่ยากจน ตามรายงานของหญิงวัย 33 ปีจากซานตง ประเทศจีน ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อค้นหาญาติ และพบครอบครัวดั้งเดิมของตนเอง ต้องขอบคุณความสำเร็จของการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ทำให้เธอค้นพบว่า กรดดีออกซีไรโบนิวคลีอิก (DNA) เทียบกับคู่รักในจูจี้ เมืองเช่าซิง มณฑลเจ้อเจียงได้สำเร็จ แม้ว่าซานตงและจูจี้จะอยู่ห่างกัน 1,000 กิโลเมตร แต่สาวก็ไม่ย่อท้อเดินไปจูจี้อย่างตื่นเต้น เธอมีความสุขมากที่ได้พบกับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอ เมื่อหญิงได้เหยียบย่ำบ้านเกิดของเธอเป็นครั้งแรกก็ไม่สามารถระงับอารมณ์ของตนเองได้จนร้องไห้ออกมาอย่างตื้นตัน
หลังจากขึ้นรถแล้ว เธอถามเจ้าหน้าที่ขณะสะอื้นว่า… ครอบครัวของฉันเป็นยังไงบ้าง พ่อแม่ของฉันเป็นยังไงบ้าง” เมื่อใดก็ตามที่เธอพูดถึงพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอ เธอก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือ ความผิดหวัง ครอบครัวที่แท้จริงจะไม่มารับเธอและไม่มีพิธีต้อนรับ แถมพ่อผู้ให้กำเนิดของเธอพบเธอเพียงลำพังข้างนอกและไม่มีความตั้งใจที่จะพาเธอกลับบ้าน แม้แต่มารดาและพี่สาวแท้ ๆ ของเธอก็ไม่เต็มใจที่จะมาพบเธอ
เธอไม่อยากถูกเข้าใจผิดว่าเธอมาที่นี่เพื่อแบ่งทรัพย์สินของครอบครัว และเริ่มแสดงออกว่า ชีวิตปัจจุบันของเธออยู่สบาย แต่บิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเพียงตอบเบาๆ ผมรู้ ผมเป็นหนี้คุณและผมก็จะบอกพวกเขาด้วย ซึ่งเธอตอบกลับว่า… ไม่ได้เป็นหนี้อะไรเลย หนูแค่อยากจะพบคุณและรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่
หนูคิดมาตลอดว่า คุณกำลังอยู่ในความทุกข์ยากลำบาก หนูเป็นห่วงพวกคุณมาก พ่อผู้ให้กำเนิดของเขาจึงพูดอย่างเย็นชา อย่าร้องไห้ ตอนนี้เรากำลังมีชีวิตที่ดีแล้ว ซึ่งเธอเองยังไม่เอะใจกับคำพูดจากปากชายผู้ให้กำเนิดจึงตอบว่า… หนูก็สบายดี คุณไม่ต้องเป็นห่วงหนู ครอบครัวที่เลี้ยงหนูมาเป็นคนดีมาก
มีรายงานว่าพ่อบุญธรรมทำงานราชการมีเงินเดือนสูง ส่วนแม่บุญธรรมทำธุรกิจ สาวจีนยังใจดีบอกพ่อผู้ให้กำเนิดว่า หากพ่อแม่เต็มใจในตอนเกษียณอายุก็สามารถย้ายไปอยู่ซานตงกับเธอได้ แต่บิดาผู้ให้กำเนิดก็ยังคงมองด้วยสายตาเย็นชา และไม่แยแสอะไรทั้งนั้น เพราะจริงๆ แล้วครอบครัวกังวลว่า เธอจะมาขอแบ่งทรัพย์สิน
นับตั้งแต่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ ชาวเน็ตหลายคนโกรธกับพฤติกรรมของพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของสาว แต่เธอตอบว่าเธอเข้าใจและรู้สึกขอบคุณพ่อแม่ของเธอ และตอนนี้แค่อยากดูแลครอบครัวของเธอเอง
