กรณีผู้ปกครองเด็กนักเรียนชั้น ป.5 อายุ 11 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ จ.บุรีรัมย์ ร้องขอความเป็นธรรมกับศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหม หลังเด็กถูกครูตี จำนวน 70 ครั้ง อ้างว่าเด็กทำการบ้านไม่เสร็จ ที่ให้ไว้ในช่วงปิดเทอมจากทั้งหมด 107 ข้อทำได้เพียง 37 ข้อเหลือ 70 ข้อ จึงถูกตี 70 ที
ล่าสุดวันที่ 1 ธ.ค. 2566 ครูภาษาไทย ออกมาเปิดใจว่า… ความในใจของครูที่มีต่อศิษย์ทุกคน ที่เป็นครูมากว่า 20 ปี ในฐานะที่ครูเคยลำบากมาก่อนครูอยากให้ลูกศิษย์ได้ดี มีความรับผิดชอบ การสั่งงานไปในช่วงปิดเทอม ก็ต้องการให้เด็กได้มีโอกาสวางโทรศัพท์มือถือบ้าง หันมาอ่านหนังสือ
ถึงแม้จะเป็นข้อตกลงกันในการทำโทษ แต่ทำจริงก็ไม่ถึงในความเป็นจริงของครู หัวอกของครู ครูรักเด็กทุกคนทุ่มเทให้เด็กตลอด ที่ผ่านมามักจะบอกเด็กเสมอว่าครูมาสอนหรือไม่มาสอนครูก็ได้เงินเดือนเหมือนเดิม แต่ทำไมครูต้องมาจ้ำจี้จ้ำไช กับเด็กนักเรียน
ถึงแม้เด็กนักเรียนจะโกรธเกรียดครูแค่ไหนครูไม่ว่า ขอให้เด็กได้ดีได้ประสบผลสำเร็จในชีวิต เด็กคนไหนไม่ได้เรียนต่อก็จะติดตามความคืบหน้าตลอด ถามว่าเสียใจไหม ยอมรับว่าเสียใจมาก แต่เป็นข้อตกลงเธอเจ็บกาย แต่ครูเจ็บใจการตีไม่ได้ตีด้วยการเครียดแค้น บอกเด็กเสมอว่าเธออยู่ประถมเจอครูไม่กี่คน แต่ถ้าไปมัธยมจะต้องเจอครูอีกมาก
ด้าน นางประภัสสร บุญสมัย อายุ 49 ปี รอง ผอ. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 กล่าวว่า หลังทราบเรื่องทางเขตฯไม่ได้นิ่งนอนใจ เบื้องต้นให้ครูที่ทำโทษเด็กให้ไปช่วยราชการโรงเรียนอื่น รวมผู้อำนวยการที่ต้องไปช่วยราชการในเขตพื้นที่การศึกษาฐานรายงานล่าช้า
โดยจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ทั้งหมดจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ นางประภัสสร กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นการตีเด็กยังถือว่าเป็นการลงโทษที่ไม่ถูกต้อง แต่เท่าที่ทราบเด็กถูกตีทั้งหมด 13 คน แต่ไม่ถึงจำนวนที่ครูคาดโทษเอาไว้ ทั้งนี้ก็อยากให้ผู้ปกครองเด็กพาเด็กไปเรียนที่เดิมเพราะครูที่กระทำไม่ได้อยู่ในพื้นที่แล้ว