เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2566 นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมาย พนักงานฝ่ายปกครอง สำนักสอบสวนและนิติการ กรมการปกรอง กระทรวงมหาดไทย ว่าที่ร้อยตรีอากาศ ปานแย้ม ผู้เชี่ยวชาญสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค1 เจ้าหน้าที่ป.ป.ส.ภ.1 และกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนกว่า 50 นาย บุกจับร้านเหล้าแห่งหนึ่งในต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมผับในย่านหทัยราษฎร์ – สายไหม ในพื้นที่อำเภอลำลูกกาครั้งนี้ สืบเนื่องจากประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทยว่ามีสถานบริการปล่อยเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ ปล่อยให้ใช้ยาเสพติดและมีการจำหน่ายยาเสพติด ภายในร้านการ์ดของร้านมีพฤติการณ์พกอาวุธปืน อ้างอิทธิพลคนในพื้นที่ ทั้งปล่อยนักเที่ยวบางคนพกพาอาวุธปืน และเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ให้บริการถึง 6 โมงเช้า
ทั้งยังเคยมีประวัติเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปเที่ยวเมาและขับรถตกทางด่วนเสียชีวิต และมีข่าวยิงกันตายภายในร้าน แต่ร้านยังคงได้เปิดตามปกติ อยากให้หน่วยงานรัฐเข้าตรวจสอบจับพนักงานฝ่ายปกครองเข้าสืบสวนข้อเท็จจริง พบว่ามีการกระทำผิดจริงตามข้อร้องเรียน
กระทั่งเวลา 01.45 น. วันที่ 22 ต.ค.66 เปิดปฏิบัติการจู่โจมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมายทันที เมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับพบเป็นห้องทึบ เปิดเพลงเสียงดังสนั่น แสงไฟเลเซอร์วิบวับ พบนักเที่ยวจำนวนกว่า 300 คน กำลังมั่วสุมดื่มกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เต้นตามจังหวะเสียงดนตรีอย่างเมามัน ทั้งยังสูบบุหรี่พ่นควันคละคลุ้ง
พนักงานฝ่ายปกครองจึงสั่งให้ปิดเพลงและเปิดไฟให้แสงสว่าง ภายในผับเกิดความโกลาหล นักเที่ยวหลายคนต่างโยนยาเสพติดทิ้งออกจากตัว และพยายามหลบหนีออกทางประตูหน้าร้านและหลังร้าน แต่ชุดจับกุมปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ พนักงานฝ่ายปกครอง ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ
จากการเข้าตรวจสอบผับดังกล่าว พบว่าเป็นสถานประกอบการที่เปิดทำการค้าในลักษณะเป็นสถานบริการ มีการขายอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการแสดงดนตรี และให้นักเที่ยว ดื่มกิน เต้นรำ แต่จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการแต่อย่างใด
ที่สำคัญสถานบริการแห่งนี้ปล่อยปละละเลยให้ใช้สารเสพติดภายในร้าน ซึ่งตรวจสอบพบยาเสพติดตกกระจายเกลื่อนพื้น มีลักษณะเป็นผงสีขาว ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นยาเคตามีน โดยพบนักเที่ยวจำนวนกว่า 300 คน พบผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 5 คน พบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 5 คน
จากนั้นนำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นตรวจสอบจำนวน 291 คน พบมีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วง จำนวนมากถึง 137 คน พนักงานฝ่ายปกครอง จึงจับกุมตัวเจ้าของร้าน ผู้ดูแล และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด ดังนี้ 1.ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.
โดยเปิดสถานบริการภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่มีคำสั่งปิด 5 ปี 2.เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 4.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย 5. ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร ในส่วน ของนักเที่ยวที่มีปัสสาวะสีม่วง เจ้าหน้าที่ปปส.นำเข้ากระบวนการตามกฎหมายต่อไป
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า ในวันนี้พบว่าสถานบันเทิง “MEM Exclusive Club” มีกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายโดยชัดแจ้ง ทั้งการไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ขาย เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ เกิน เวลา ปล่อยปละละเลย ให้ขายและเสพยาเสพติดภายในร้าน ถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดแจ้ง
จากนี้จะได้สั่งการให้อำเภอลำลูกกา รายงานเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีมีคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้ 5 ปี ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ต่อไป อธิบดีกรมการปกครองยังได้กล่าวต่อไปว่า
การจับกุมในวันนี้เป็นไปตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีนโยบายในการจัดระเบียบสังคม การแก้ไขปัญหายาเสพติด และการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เพื่อสร้างสังคมให้สงบสุข บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ปลอดยาเสพติด ประชาชน มีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต
ซึ่งการจับกุมในวันนี้ นอกจากเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนตามข้อร้องเรียนของประชาชนผ่านศูนย์ดำรงธรรม แล้ว ยังเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาดของยาเสพติด ลด Demand Supply เพื่อป้องกันไม่ให้สถานบริการเป็นสถานที่กระจายยาเสพติดไปสู่นักเที่ยวด้วยอีกทางหนึ่งด้วย
และหากประชาชนมีเบาะแสการกระทำผิดกฎหมาย หรือได้รับความเดือดร้อนสามารถแจ้งต่อ ผู้ใหญ่บ้าน หรือ กำนัน หรือแจ้งต่อปลัดอำเภอ นายอำเภอท้องที่ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไขให้แจ้งมายังศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย สายด่วน 1567
ด้านนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง กล่าวว่า มีประชาชนร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมการทรวงมหาดไทย ว่ามีผับเปิดและไม่มีใบอนุญาตและปล่อยให้มีการใช้ยาเสพติดในผับเยอะมากซึ่งเมื่อเรามาตรวจสอบก็พบว่ามียาเสพติดจริงอย่างที่ได้รับร้องเรียนมา 1.สถานที่แห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตในการตั้งสถานที่หรือเป็นสถานบันเทิงเถื่อน
นอกจากนี้ ยังเปิดให้บริการดึกมากขายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และการปล่อยปละละเลยให้มีการเสพยาเสพติดซึ่งทางสายของเราเมื่อเข้ามาก็เห็นว่าแรกๆก็จะเสพกันในห้องน้ำและเมื่อดึกมากก็จะเสพกันที่โต๊ะเลย อย่างที่เห็นเรายึดยาเสพติดได้เยอะมาก และวันนี้เราร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ป.ป.ส.ภาค 1 ซึ่งมาทั้ง ยาไอซ์ เคตามีน แฮฟปี้วอร์เมอร์
ซึ่งทางป.ป.ส.แจ้งว่า แฮฟปี้วอร์เทอร์นั้นเป็นยาเสพติดที่อันตรายมาก เพราะมีตัวยาเสพติดหลายชนิดผสมอยู่ ทั้งกระตุ้นปราสาท ซึ่งสถานสถานที่แห่งนี้เปิดมานานแล้ว พึ่งย้ายมาจากที่มีเรื่องยิงกันเสียชีวิต ก็เลยย้ายมาอยู่ที่แห่งนี้ และพบอาวุธปืนพร้อมใช้แบลงค์กันดัดแปลง และเครื่องกระสุนอยู่ในตัวการ์ดของร้าน