เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา ที่ชมรมสื่อเสรีเลย จ.เลย นางดวงจันทร์ อายุ 61 ปี ชาวบ้านห้วยไคร้ หมู่ที่ 6 และนายประสิทธิ์ อายุ 57 ปี บ้านทรัพย์สมบูรณ์ หมู่ 14 พร้อมกับลูกหลาน มาร้องสื่อขอความเป็นธรรม หลังถูกสหกรณ์การเกษตรยึดบ้านและที่ดิน ทั้งๆไม่เคยเซ็นอะไร ขึ้นศาลก็ไม่ได้ขึ้น จู่ๆ มีหมายศาลยึดที่ดินและบ้าน
ขอร้องสื่อผ่านถึงผู้มีอำนาจ รัฐบาลใหม่ และ รมว.ยุติธรรม ให้ช่วยดูแลเรื่องกฎหมาย ข้อบังคับระบบของสหกรณ์ นางดวงจันทร์ เปิดเผยด้วยน้ำตาว่า… ในช่วงปี 2554 ตนมีอาชีพหาเช้ากินค่ำรับจ้างทั่วไป มีอยู่วันหนึ่งมี นางอำพร ซึ่งเป็นคนในตำบลเดียวกัน มาที่บ้านถามว่า อยากได้เงินมั้ย ให้เอาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนมา เพื่อจะนำไปเป็นคณะกรรมการสหกรณ์ และไม่กี่วันเขาก็เอาเงินมาให้ 3,000 บาท
จากนั้นเมื่อตนได้เงินมาจึงชวนสามีไปหางานทำที่ระยอง ไปทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้าง จนถึงปี 64 ตนกลับมาที่บ้าน เงินที่ได้จากการเก็บหอมรอมริบ ทำงานก่อสร้างมา 10 ปี ก็มาสร้างบ้านได้หลังหนึ่ง ในที่ดินนส.3 เนื้อที่ 2 งาน พอสร้างเสร็จอยู่ได้ประมาณ 7 เดือน ก็มีหมายศาลยึดที่ดินและบ้าน ตนกับสามีรู้สึกแปลกใจมาก
พอสอบถามไปมาจึงรู้ว่า ตนเคยเอาเงินเขามา 3,000 บาท และเงินก้อนนี้ สมัยที่ทำงานอยู่ระยอง เคยถามประธานสหกรณ์ มารู้ที่หลังว่า ชื่อสหกรณ์การเกษตรประชาสามัคคีตำบลโนนปอแดง ตนเคยจะเอาเงินไปคืน แต่ประธานบอกว่าเอาไว้ก่อน แต่วันนี้กลับมีหมายศาลมายึดบ้านและที่ดิน ทั้งๆ ไม่เคยรับหมายศาล ไม่เคยขึ้นศาล จู่ๆก็มายึดเลย
จึงขอความเป็นธรรม ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ พิจารณาใหม่ เดือดร้อนมาก อายุก็มากแล้ว กินไม่ได้นอนไม่หลับ น้ำหนักลดกว่า 10 กิโลกรัม ตอนนี้กำลังจะไม่มีที่อยู่ที่กิน ขอให้รัฐบาลใหม่ รมต.ยุติธรรม หรือท่านนายกฯคนใหม่ มาดูเรื่องกฎหมาย
เป็นชาวบ้านไม่รู้เรื่องจริงๆ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือด้วย ไม่ได้รับความเป็นธรรม เอาเงินเขามา 3,000 บาท ถึงขนาดต้องยึดบ้าน” นางดวงจันทร์ กล่าว