ในโลกออนไลน์ได้แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า Arinchai Aob Viteetammasakdi และวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง หลังจุดคัดกรองทำใบขับขี่ แต่ทำโต๊ะต่ำ จนคนที่เข้ามาใช้บริการต้องคุกเข่าเข้าไปคุย โดยระบุว่า… เมื่อวานไปต่อใบขับขี่มา ตรงจุดคัดกรองเขาทำโต๊ะต่ำๆ คนที่เข้าไปติดต่อขอคิวส่วนใหญ่ก็ก้มคุยนั่นแหล่ะ แต่บางคนก็นั่งแบบนี้เลย ลุงด้านหลังผม เขาก็สะกิดแซวว่าต้องคุกเข่าแล้วจะได้คิวเร็วขึ้น ถ้ายืนค้ำหัวไปอยู่คิวท้ายๆ ถ้าเป็นผมจะเปลี่ยนโต๊ะให้เหมาะสมกว่านี้นะ ทำงานต่อได้ยังไง มีคนมาคุกเข่ารับคิวแบบนี้
ประเทศเรามันมีระบบราชการ และระบบการศึกษา, การบ่มเพาะแบบไหน เราถึงได้เฉยๆ กับเรื่องแบบเนี้ยได้ มันต้องเป็นระบบที่ทำให้คนคุ้นเคยกับการกดต่ำกันเองแบบมากๆ เลย เราจะสร้างสังคมที่ดี คนมีสิทธิ ศักดิ์ศรีได้ไง ถ้าเผด็จการยังคุมระบบราชการ, ระบบการศึกษา สอนให้คนเชื่อง คุ้นเคยกับอำนาจนิยม การหมอบคลาน จนคุกเข่าได้แบบนี้
ขณะเดียวกันผู้โพสต์ยังได้เข้ามาพิมพ์ในคอมเมนต์เพิ่มเติมว่า คิดว่าควรมีเก้าอี้ไว้ให้นั่งเหมือนกัน แต่เรื่องเก้าอี้ ผมพอเข้าใจว่ามันเป็นการรับคิว เขาก็คงไม่อยากให้นั่งนาน แต่การให้ใครมาคุกเข่าแบบนี้ได้ มันต้องรู้สึกอะไรบ้างแน่ๆ ก็ควรปรับปรุงอย่างเช่น ความสูงของโต๊ะ ช่องในการยื่นเอกสาร แต่วันแรกที่รับคิวที่ผมถ่ายรูปมา กับวันที่ไปรับใบขับขี่ก็ผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์นะ ก็ไม่เห็นเขาจะเปลี่ยนแปลงอะไร
ผมอยากพิมพ์ให้ครบเพื่อให้ยุติธรรมกับคนทำงานด้วย สำหรับคนทำงานเขาก็โอเคนะ ต้องอธิบายเรื่องคิวกับคนหลายร้อยในแต่ละวัน ก็คงเหนื่อยมาก แต่ก็พูดจาดี ข้าราชการชั้นปฏิบัติงานที่มีใจรักบริการ ก็ ต้องชื่นชม คนเหล่านี้หลายคน ก็ มีใจร่วมกับสามัญชนอย่างเราๆ แต่ที่ผมโฟกัส คือเราต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ เราจึงคุกเข่า หรือ เห็นคนคุกเข่าคุยกับเราได้เป็นปกติ อย่างถ้าคุณเป็นผู้บริหารหน่วยงานราชการ คุณจะปล่อยผ่านเรื่องแบบนี้มั้ย? ผมอยากตั้งคำถามถึงสิ่งที่สร้างอุดมการณ์ ค่านิยมเราขึ้นมา ซึ่งมันไม่ปกติหรอก ผมถึงถ่ายรูปแบบนี้มาลงได้
นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า ที่ป้ายมีกฎการแต่งกายด้วย ต้องใส่กางเกงขายาว ใส่กระโปรงยาวกว่าเข่า ใครเห็นต่างแล้วแต่นะ แต่ผมคิดว่าการแต่งกายเป็นสิทธิน่ะ ขอแค่สุภาพก็พอแล้ว ทำไมขาสั้นไม่สุภาพหล่ะ ก็ ขนาดชุดนักเรียนที่บังคับให้เด็กใส่ที่คุณบอกว่าสุภาพ ก็ ยังขาสั้นเลย
การเป็นสถานบริการประชาชน มันไม่ควรมีกฎที่ละเมิดสิทธิการแต่งกายของประชาชนหรอก แต่ที่มันมีเพราะมันฟูมฟักแบบนี้กันมาตั้งแต่ในระบบการศึกษา สถานที่ราชการต้องเป็นเหมือนสถานที่พิเศษ มีเจ้านายทำงานอยู่ มีความขลัง มีกฎเงื่อนไขในการเบ่งอำนาจคัดเลือกกรองคนที่จะเข้ามาใช้บริการได้ พยายามบอกว่าเราคือเจ้านายนะ ไม่ใช่พนักงานเอกชนนะ มันเป็นการพยายามเบ่งของระบบราชการในประเทศที่มีลักษณะอำนาจนิยมน่ะ เป็นแบบนี้ทุกที่ จนคนรู้สึกแย่กับระบบราชการ
