เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2566 ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหลายรายในเขต ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ว่ารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากเทศบาลส่งเจ้าหน้าที่เอาบิลค่าน้ำประปามาเก็บย้อนหลัง 6-9 ปี เดือดร้อนกันทั่วหน้า จึงลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีชาวบ้าน หมู่บ้านละประมาณ 2-4 ราย หนักสุด 29 ราย ถูกเรียกเก็บเงินค่าน้ำประปารายละ 4,000-15,000 บาท ซึ่งเป็นค่าน้ำประปาเรียกเก็บย้อนหลังตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา
นางชมเชย จะยันรัมย์ อายุ 70 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวในหมู่บ้าน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่เอาบัญชีรายการเงินค้างจ่าย ตั้งแต่ปี 2557 คิดเป็นเงินกว่า 10,000 บาท มาเรียกเก็บ เมื่อดูรายละเอียดพบว่า แต่ละเดือนมีค่าน้ำประปาเดือนละ 50-150 บาท แต่ค้างไม่ทุกเดือน เป็นเดือนเดียวบ้าง 2-3 เดือนบ้าง เพราะที่ผ่านมาจะมีคนมาเก็บแทบทุกเดือน ใบเสร็จได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ไม่ได้สนใจ
แต่สิ่งที่คาใจคือถ้าไม่จ่ายค่าน้ำประปาทำไมไม่มายกหม้อมิเตอร์ไป เพราะผู้ใช้จะได้รู้ว่าค้างค่าน้ำอยู่ปล่อยให้ผ่านมาหลายปี เป็นเงินก้อนใหญ่ซึ่งยอมรับว่าไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายให้ได้แน่ๆ เพราะขายก๋วยเตี๋ยวชามละ 30 บาท มีรายได้พอเลี้ยงชีพไปวันๆเท่านั้น จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว
น.ส.ยุทธ คงรัมย์ อายุ 73 ปี เผยว่า ดูแลบ้าน 2 หลัง กับบ้านลูกชาย จะต้องจ่ายให้เทศบาลเป็นเงินกว่า 10,000 เหมือนกัน สอบถามเทศบาลไปแต่ไม่มีคำตอบ บอกว่าจะต้องจ่าย เพราะค้างไว้ นางดารากร ชงักรัมย์ อายุ 62 ปี เผยว่า ตนโดนย้อนหลังมาตั้งแต่ปี 2560 เป็นเงิน 3,000 บาท ทั้งที่จ่ายค่าน้ำประปาทุกเดือน
จึงอยากจะให้เทศบาลมีการแก้ไขระบบ มิเช่นนั้นชาวบ้านจะเดือดร้อน นายวีรวัฒน์ สถิตย์พูนพันธ์ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านด่าน กล่าวว่า มารับตำแหน่งเมื่อปลายปี 64 เมื่อมาตรวจสอบดูพบว่ามีปัญหาค้างค่าน้ำประปากันเป็นจำนวนมากจริง แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีการจ้างเอกชนมาเก็บค่าน้ำประปาแต่จะส่งเงินให้เทศบาลหรือเปล่าตนไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้เข้ามารับตำแหน่ง
แต่ตอนนี้ผู้ใช้น้ำประปาจำเป็นต้องจ่ายตามกฎหมายตามหลักฐานที่พบ และหากไม่แจ้งไป จะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนการจ่ายก็อาจจะผ่อนผันให้เป็นการแบ่งจ่ายผ่อนชำระได้