อุทธรณ์ยกฟ้อง หมอวรงค์ ไม่หมิ่น ลั่นผมชนะอีกแล้ว ช่อ ฝากถึง ธนาธร สู้ไปก็แพ้คดี

ณ.ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ หมายเลขดำอ.1853/2563 ที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เป็นโจทก์ฟ้อง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีที่นพ.วรงค์ จำเลยเปิดโปงข้อมูลว่

คณะก้าวหน้ามีการอมเงินบริจาคโครงการเมย์เดย์ ที่จัดระดมทุนช่วยเหลือนักดนตรีช่วงโควิด-19 จำเลยให้การปฏิเสธ คดีนี้ศาลอาญาพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่า จำเลยแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม อันเป็นวิสัยของประชาชนที่ย่อมกระทำได้ จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง โจทก์ ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย

ต่อมา ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือเเล้วเห็นว่า น.ส.พรรณิการ์ เป็นบุคคลสาธารณะที่ประชาชนรู้จัก การที่ นพ.วรงค์เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวถือเป็นการแสดงความเห็นสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม อันเป็นวิสัยของประชาชนที่ย่อมทำได้ อีกทั้งรายชื่อ 11 คนที่รับเงินบริจาคไปตามที่นพ.วรงค์กล่าวอ้าง ตรวจสอบแล้วไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร จึงไม่มีตัวตน ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง

ด้าน นพ.วรงค์ กล่าวภายหลังยกฟ้องว่า การฟ้องดังกล่าวเป็นการกระทำของกลุ่มที่มีแนวคิดแก้ไขมาตรา 112 เป็นการฟ้องเพื่อปิดปากตนที่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่างๆ จึงอยากเรียกร้องให้จากนี้ต่อไปกลุ่มดังกล่าวออกมาต่อสู้กันด้วยอุดมการณ์ทางความคิดอย่างเป็นธรรม

ส่วนตัวถูกกลุ่มดังกล่าวฟ้องมา 3 คดี ได้แก่คดีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนางสาวพรรณิการ์ แกนนำคณะก้าวหน้า

นพ.วรงค์ กล่าวว่า คดีของนายพิธา และ น.ส.พรรณิการ์ ยกฟ้องแล้ว เหลือเพียงคดีของนายธนาธร ที่อยู่ระหว่างพิจารณาคดี ฉะนั้นขอให้นายธนาธร ถอนฟ้องคดีเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เพราะตนคิดว่าอย่างไรก็แพ้คดี

ต่อมา นพ.วรงค์ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า ผมชนะอีกแล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษา คดีเมย์เดย์เมย์เดย์ โดยยืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง เพราะถือว่าผมวิจารณ์ด้วยความสุจริตและเป็นธรรม

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *