เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2566 จากกรณีที่ตำรวจจับ 2 นักเรียนหญิงชั้น ม.1 งัดตู้กระจกร้านขายโทรศัพท์มือถือในห้างสรรพสินค้าชื่อดังในจ.บุรีรัมย์ ลักเอาโทรศัพท์มือถือไอโฟน 11 ราคา 11,900 บาท และไอโฟน 7 มือสองสีดำมูลค่า 5,900 บาท รวมทั้งเสื้อผ้าแบรนด์เนม 2 ตัว รองเท้ายี่ห้อดังอีก 2 คู่ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2566 เวลา 21.20 น. ที่ผ่านมา
โดยเรื่องนี้ หนุ่มเจ้าของร้านมือถือ เปิดเผยว่า ส่วนตัวก็ไม่ได้อยากเอาผิดอะไรกับเด็กหากได้ของคืนในสภาพเดิม เพราะตอนนี้มือถือยังอยู่กับตำรวจ เห็นใจผู้ปกครองเพราะน้องยังเป็นเยาวชน ส่วนเรื่องของคดีก็ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะดำเนินการกฎหมาย
แต่ถ้าหากไม่ดำเนินการอะไรกับน้องเลยก็อาจจะไม่เข็ดหลาบอนาคตน้องอาจจะไปก่อเหตุแบบนี้อีก ขณะที่ตา และยายของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) เปิดเผยว่าเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เด็กหลังจากพ่อแม่แยกทางกัน เมื่อก่อนตายายยังพอทำงานรับจ้างได้ แต่พออายุมากขึ้นก็ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะไปรับจ้างเหมือนเมื่อก่อน
ทุกวันนี้อาศัยเบี้ยผู้สูงอายุประทังชีวิตทั้งตายายและหลานอีก 2 คน เมื่อก่อนแม่ของหลานซื้อมือถือให้แต่ปีที่แล้วหลานทำหายเลยไม่มีมือถือใช้ แต่ก็ไม่เคยเอ่ยปากขอเพราะรู้ว่าตายายไม่มีเงินซื้อให้เพราะไม่มีรายได้อะไร
ที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีพฤติกรรมลักขโมยเลย ตอนรู้ข่าวยังตกใจไม่คิดว่าจะทำแบบนั้น คิดว่าคงทำไปเพราะอยากมีมือถือเหมือนคนอื่น ตายายเสียใจและตอนนี้เครียดมากเพราะไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าเสื้อและรองเท้าที่หลานขโมยมา เขาเรียกค่าเสียหายกว่า 2 พันบาท
ส่วนมือถือยังไม่ได้คุยกับเจ้าของร้านเลย แต่หากไม่มีเงินจ่ายก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย หลานอาจจะต้องไปอยู่สถานพินิจ สงสารแต่ไม่รู้จะทำยังไง