เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2566 ที่บริเวณด้านหน้าบริษัทแห่งหนึ่ง ต.เมืองเพีย อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น มีพนักงาน 63 คน ที่ถูกเลิกจ้าง รวมตัวเรียกร้องขอค่าแรงที่บริษัทค้างจ่าย แต่ไม่สามารถเข้าไปภายในบริษัทได้ เนื่องจากมีการปิดประตูไว้อย่างแน่นหนา ภายในบริษัทมีเพียงเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลนั่งเฝ้าโรงงานอยู่บริเวณโรงอาหาร และไม่สามารถให้คำตอบใดๆ กับพนักงาน
น.ส.อมรรัตน์ สิทธิปน อายุ 35 ปี ชาว จ.ขอนแก่น กล่าวว่า… บริษัทแห่งนี้เปิดรับสกรีนเสื้อและกางเกงแบรนด์เนมชื่อดัง เป็นสาขาของบริษัทใหญ่ในกรุงเทพฯ ที่มาเปิดใน ต.เมืองเพีย ตั้งแต่ปี 2553 ตนทำงานในแผนกตรวจสอบคุณภาพ ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน ได้ค่าแรงล่าสุดวันละ 344 บาท โดยบริษัทจ่ายค่าแรงสัปดาห์ละ 4,200 บาท พร้อมกับหักจ่ายค่าประกันสังคม 225 บาท
น.ส.อมรรัตน์ กล่าวว่า กระทั่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลแจ้งลงในกลุ่มไลน์ของบริษัทว่า… ประกาศให้พนักงานทุกคนรับทราบค่ะ ปุ้ยฝ่ายบุคคลได้รับประสานงานมาจากคุณเล็ก เวลา 13.34 น. ให้ปิดกิจการตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2566 จึงแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันค่ะ
น.ส.อมรรัตน์ กล่าวอีกว่า… ต่อมาทราบว่าบริษัทฯ ที่กรุงเทพฯ แจ้งให้ปิดโรงงานที่ขอนแก่น ทำให้พนักงานในบริษัทงงกันมาก เพราะไม่มีการแจ้งล่วงหน้า แต่ทุกคนยังทำงานต่อ จนถึงวันที่ 1 มิ.ย. 2566 ไฟฟ้าก็ถูกตัด และไม่สามารถทำงานได้
น.ส.อมรรัตน์ กล่าวต่อว่า วันที่ 2 มิ.ย. 2566 มีเจ้าหน้าที่สวัสดิการ และคุ้มครองแรงงานจังหวัดขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ประกันสังคมจังหวัดขอนแก่นได้ประสานมาที่บริษัท ให้พนักงานทั้งหมดไปประชุมและกรอกเอกสารที่ อบต.เมืองเพีย
น.ส.อมรรัตน์ กล่าวอีกว่า… เจ้าหน้าที่สวัสดิการ และคุ้มครองแรงงานจังหวัดขอนแก่น ได้รับแจ้งว่าบริษัทปิดตัวลงแล้ว ทำให้พนักงานทั้งหมดได้รับความเดือดร้อน จึงให้กรอกเอกสารเพื่อรับเงินชดเชยจากกระทรวงแรงงาน สำหรับคนที่มีอายุงาน 6 เดือน จะได้รับค่าชดเชยวันละ 180 บาท ทำงานไม่เกิน 10 ปี จะได้รับเงินชดเชยวันละ 240 บาท ถ้า 10 ปีขึ้นไป รับเงินชดเชยวันละ 300 บาท และทุกคนจะได้ค่าตกใจคนละ 23 วัน
น.ส.อมรรัตน์ กล่าวต่อว่า ประกันสังคมแจ้งว่าตามสิทธิของพนักงานที่ตกงานจะได้รับค่าชดเชยคนละ 50% ของค่าแรง เป็นจำนวน 6 เดือน แต่บริษัทไม่ส่งเงินให้ประกันสังคม ทั้งที่พนักงานทั้ง 63 คน ถูกหักเงินไปหมดแล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งว่าบริษัททำเรื่องผ่อนจ่ายอยู่ พนักงานก็เกิดความไม่สบายใจว่าจะยังใช้สิทธิประกันสังคมได้หรือไม่ ทั้งที่บริษัทมีงานเข้ามาตลอด
ช่วงโควิดระบาดก็ยังรับงาน และเปิดบริษัททำงานมาอย่างต่อเนื่อง พนักงานก็ยังทำงานทำเงินให้บริษัท ไม่น่าทำกับพนักงานแบบนี้ น.ส.อมรรัตน์ กล่าวอีกว่า… หลังจากพบเจ้าหน้าที่สวัสดิการ และคุ้มครองแรงงาน และเจ้าหน้าที่ประกันสังคมก็มีการประสานงานกับทางบริษัทใหญ่ในกรุงเทพฯ มาอย่างต่อเนื่อง
โดยมีฝ่ายบุคคลเป็นตัวกลางประสานงาน เพื่อขอเงินเดือนเดือนสุดท้ายที่พนักงานทั้ง 63 คนทำงานแล้วไม่ได้รับค่าจ้าง รวมเป็นเงิน 21,420 บาท ซึ่งได้รับคำตอบว่าจะได้เงินในวันที่ 16 มิ.ย. แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่มีใครได้เงิน
น.ส.อมรรัตน์ กล่าวต่อว่า วันนี้จึงรวมตัวกันมาที่บริษัท พบว่ามีฝ่ายบุคคลเฝ้าบริษัทอยู่ จึงทวงถามเงินค่าแรง แต่ฝ่ายบุคคลไม่สามารถให้คำตอบได้ พนักงานทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า เมื่อบริษัทปิดตัวลง ทิ้งพนักงาน และไม่เหลียวแลจ่ายเงินให้ ก็จะรวมตัวเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้แก้ไขปัญหาและคลายความเดือดร้อนให้ชาวบ้านด้วย
