จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ส.ต.ท.สังกัด สส.ภ.จว.นนทบุรี 2 นาย ปรากฏตัวอยู่ในคลิปที่แม่ค้าร้านขายกล้วยทอด บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ ระหว่างที่มาทวงเงินค่าส่วยสติ๊กเกอร์จำนวน 3,500 บาท จนถูกแจ้งความดำเนินคดี ก่อนที่ทั้ง 2 นายจะเดินทางเข้ามอบตัว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2566 เวลาประมาณ 18.00 น. พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวว่า… เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดภูธรจังหวัดนนทบุรีจริง รายแรกยศ ส.ต.ท. สังกัดกองร้อยควบคุมฝูงชน กก.สส.ภจว.นนทบุรี และ ส.ต.อ. สังกัด กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี
ซึ่งในวันเกิดเหตุ ทั้ง 2 นายให้การว่า ได้เดินทางไปยังร้านดังกล่าวจริง เนื่องจากได้รับรายงานจากสายข่าวว่า ในพื้นที่ดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้ใช้รถกระบะซึ่งมีเพียงแค่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายเดินทางไปตรวจสอบ ไม่ได้มี 4 คน ตามที่ผู้เสียหายแจ้งความหรือเข้าใจผิด
แต่ภายในรถได้มีการแขวนเสื้อคลุมเอาไว้ด้วย ประกอบกับรถติดฟิล์มทึบ จึงทำให้มองผิดพลาดเห็นเป็น 4 คนในรถ พ.ต.อ.สมพล กล่าวต่อว่า จากนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีจะสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ไปประจำที่ ศปก.ตร.ก่อน ในระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งหากตรวจสอบพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับประเด็นที่เกิดขึ้นจริง ก็จะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เป็นขั้นตอนลำดับถัดไป
โดยขณะนี้อยู่ในขั้นระหว่างการสอบสวนและตรวจสอบเส้นทางการเงินกับข้อมูลในโทรศัพท์ของทั้ง 2 นาย ว่ามีการเรียกรับเงินมาจริงหรือไม่ หรือเก็บส่วยตามที่ถูกกล่าวหาจริงหรือไม่ เบื้องต้นทั้ง 2 นาย ยังคงให้การปฏิเสธ
พ.ต.อ.สมพล กล่าวต่ออีกว่า… ส่วนตอนนี้เรื่องของสติ๊กเกอร์ที่มีลายเซ็นด้านหลังนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็นลายเซ็นของผู้ใด ส่วนผู้เสียหายจะเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม ทั้งในประเด็นเรื่องของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ ซึ่งมีจำนวนมาก โดยต่อไปจะไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยุ่งหรือเกี่ยวข้องใดๆ อีก
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาตามมาตรา 148 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น มีโทษจำคุก 5-20 ปี หรือตลอดชีวิต ปรับตั้งแต่ 100,000 บาท หรือประหารชีวิต
และมาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
