วันที่ 14 มิ.ย. 2566 เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมืองมายื่นหนังสือขอให้ กกต. ตรวจสอบกรณีที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นเอกสารเท็จกรณีรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด(มหาชน) เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่า… มีการสอบถามว่า ไอทีวีเป็นสื่อหรือไม่
นายเอกชัย กล่าวว่า รายงานการประชุมมีการตอบว่ามีการดำเนินกิจการอยู่ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท แต่เมื่อไม่กี่วันมีสื่อมวลชนนำคลิปวิดีโอวันประชุมผู้ถือหุ้นมาเปิดเผย ซึ่งได้รับการยืนยันแล้วว่าไม่ได้มีการตัดต่อ ซึ่งปรากฏว่าบริษัทยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับสื่อ ตรงนี้เป็นการขัดกัน
ซึ่งกรณีนี้มันจะผิดต่อหลายกฎหมาย ซึ่งในคลิปการประชุมนั้นไม่ตรงกับรายงานการประชุมจึงอาจจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.บริษัทมหาชน นายเอกชัย กล่าวต่อว่า… และการที่นายเรืองไกรนำรายงานการประชุมที่เป็นเท็จมาแจ้งกับ กกต.นั้นก็อาจจะเข้าข่ายผิดพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 143
ส่วนกรณีนายภานุวัฒน์ ขวัญยืน ที่ต้องคำถามในที่ประชุมฯนั้นก็ได้ทราบว่านายภานุวัฒน์ได้มีสายสัมพันธ์กับนายนิกม์ แสงศิรินาวิน ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย แล้วอาจจะเป็นไปได้ว่าเขาอยู่เบื้องหลังในการใช้รายงานการประชุมเท็จนี้ให้นายเรืองไกรนำมาให้ กกต.
นายเอกชัย กล่าวอีกว่า จึงอยากให้ กกต.ตรวจสอบเรื่องนี้ และมีมติให้ลงโทษตั้งแต่กรณีรายงานการประชุมฯที่มีลายเซ็นนายคิมห์ สิริทวีชัย เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.บริษัทมหาชน ส่วนกรณีนายเรืองไกรนั้นอาจจะมีความผิดพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง มาตรา 143 ส่วนนายนิกม์ อาจจะเข้าข่ายใช้เอกสารเท็จ และนายภานุวัฒน์อาจจะเข้าข่ายนิติกรรมอำพรางซ่อนอำพรางว่าถือหุ้นแต่ตัวจริงอาจจะยังเป็นนายนิกม์ถืออยู่
ทั้งนี้ นายเรืองไกรเป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ส่วนนายนิกม์ เป็นผู้สมัครส.ส.เขตของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นไปได้ว่าทั้งพรรคพลังประชารัฐและภูมิใจไทยนี้อาจอยู่เบื้องหลังการที่จะใช้เอกสารเท็จในการร้องเรียน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จึงอยากให้กกต.ตรวจสอบถ้ามีหลักฐานสาวตัวถึงสองพรรคนี้ก็อยากให้ส่งเรื่องนี้ให้ยุบ 2 พรรคนี้เลย