วันที่ 29 พ.ค. 2566 นายวิชัย สว่างขจร นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน เปิดเผยว่า เรื่องสติ๊กเกอร์ อีซี่พาส พิสดารแบบนี้ มีมานานแล้ว โดยมีหลายแบบ เมื่อสติ๊กเกอร์แบบเดิมหมดอายุหรือถูกกวาดล้าง ก็จะมีการปรับเปลี่ยนเป็นสติ๊กเกอร์ใหม่ขึ้นมาอีกเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นวงจรการทำมาหากินของขบวนการนี้ และต้องเป็นขบวนการที่มีขนาดใหญ่มาก
เพราะถ้าไม่ทำเป็นขบวนการอย่างนี้จะไม่สามารถเคลียร์ค่าผ่านทางได้อย่างแน่นอน ซึ่งกลุ่มรถบรรทุกที่ใช้บริการสติ๊กเกอร์เหล่านี้ ส่วนใหญ่บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากทุกวันนี้การแข่งขันด้านการขนส่งสินค้า ลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่จะแข่งขันกันที่ราคา ใครขนส่งสินค้าได้ราคาถูกกว่า ก็จะมีลูกค้าให้ความสนใจเรียกใช้บริการมากขึ้น
ส่วนใครที่บรรทุกตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ก็จะมีค่าขนส่งที่แพงกว่า เพราะจริง ๆ แล้วถ้าจะบรรทุกตามกฎหมายไม่เกิน 21 ตัน จะบรรทุกได้ไม่ถึงครึ่งกระบะ สำหรับรถบรรทุกหิน บรรทุกทราย จึงทำให้เกิดขบวนการหากินใต้ดินลักษณะนี้ขึ้นมา อีกอย่างการผ่อนรถบรรทุก มีต้นทุนสูงมาก บางคนได้เงินมาจากการขนส่งสินค้า ผ่อน 7 ปีก็ยังไม่หมด เขาจึงต้องไปหาวิธีที่ผิดกฎหมาย เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มรายได้ในการขนส่งสินค้า
ซึ่งรายได้ของการขนส่งสินค้าทุกวันนี้ต่ำมาก ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ผู้ประกอบการขนส่งก็ต้องทำ เพราะเป็นอาชีพของเขา คนประกอบอาชีพรถขนส่งสินค้าทุกคน ไม่มีใครอยากทำผิดกฎหมายอยู่แล้ว และไม่มีใครอยากบรรทุกเกินมาตรฐานอยู่แล้ว เพราะจะทำให้รถเสื่อมโทรมง่าย แต่ค่าขนส่งที่ต่ำเช่นนี้ ผู้ประกอบการหลายคนอยู่ไม่ได้จริง ๆ ถ้าจะแก้ปัญหา ก็ต้องแก้ไขกันทั้งระบบ ซึ่งจะต้องอาศัยอำนาจของรัฐบาลเท่านั้น จึงจะทำได้สำเร็จ
นายวิชัย กล่าวต่อว่า ซึ่งเรื่องสติ๊กเกอร์ อีซี่พาส พิสดารนี้ มีการพูดถึงกันมานานแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นสมาคมรถขนส่งสินค้าแต่ละภาค ยังแยกกันอยู่ แต่เมื่อไม่นานมานี้สมาคมรถขนส่งสินค้าต่างๆ ทั่วประเทศ 10 องค์กร ได้จับมือรวมกันเป็นสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย จึงได้มีการแชร์ข้อมูลกันและพบว่าสติ๊กเกอร์เหล่านี้มีหลากหลายมาก กระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าขบวนการนี้ใหญ่โตมาก ถ้าไม่ใหญ่จริงคงไม่สามารถทำได้ทั้งประเทศแน่ๆ
ดังนั้นทางสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย จึงมีการพยายามผลักดันให้มีการแก้ไขอย่างจริงจัง โดยเร็ว ๆ นี้จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ไปส่งให้ว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศครั้งนี้ จะสามารถช่วยกวาดล้างขบวนการนี้ให้หมดไปจากประเทศไทย เพื่อไม่ให้มีการทุจริตคอรัปชั่นจนทำให้การขนส่งเสียไปทั้งระบบเหมือนขณะนี้
