เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สุดช็อกของคุณตาวัย 78 ปี ถูกผู้จัดการสหกรณ์การเกษตร เอาชื่อไปกู้เงิน เป็นหนี้เกือบ 1 ล้าน โดยไม่รู้ตัว โดยวันที่ 27 พ.ค. 2566 ที่ สภ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น ได้มีชาวบ้านกว่า 10 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เดชาธร ดีมี ผกก.สภ.เปือยน้อย เพื่อแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
หลังถูกเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย จำกัด ปลอมแปลงเอกสารทำให้เป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว ทำให้ชาวบ้านเป็นหนี้ ตั้งแต่รายละหมื่นบาทจนถึงล้านกว่าบาท โดย นายสำลี อายุ 78 ปี อยู่ ม.7 บ้านหัวขวา ต.เปือยน้อย อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น กล่าวว่า… ได้รับความเดือดร้อนจากปลอมแปลงเอกสาร และหลักฐานต่างๆของบุคลากรในสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย
ทำให้เป็นหนี้ไม่รู้ตัว จำนวน 800,000 บาท บวกดอกเบี้ยและค่าปรับ รวมเป็นเงิน 1,012,530.06 บาท เนื่องจากเป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ในปี 2556 เคยนำโฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้กับทางสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อยจำนวน 400,000 บาท
พ่อและลูกหลานหาเงินมาปิดยอดหนี้จำนวน 400,000 บาท และไถ่ถอนเอาโฉนดที่ดินออกมาเป็นที่เรียบร้อยในปี 2559 และไม่มีการทำธุรกรรมอะไรกับทางสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อยอีก จนกระทั่งวันที่ 24 พ.ค. 2566 มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ขับรถไปรับที่ที่นา แจ้งว่า นายสมศักดิ์ เป็นผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อยให้มารับ มีธุระจะคุยด้วย
โดยเจ้าหน้าที่พาอ้อมขึ้นด้านหลังสำนักงาน เนื่องจากด้านหน้ามีชาวบ้านอยู่จำนวนมาก เมื่อผู้จัดการพบหน้า ผู้จัดการ พูดว่า พี่ครับผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว ผมเอาชื่อพี่กู้เงิน จำนวน 800,000 บาท แต่พี่ไม่ต้องห่วงนะหนี้ที่เป็นอยู่ ผมจะรับผิดชอบและจะจัดการใช้หนี้ให้พี่ทุกบาท และผมขอร้องพี่ พี่อย่าบอกเจ้าหน้าที่ที่มาตรวจสอบ และอย่าบอกชาวบ้าน อย่าแจ้งความเด็ดขาดนะพี่
พอได้ยินคำพูดของผู้จัดการแล้ว รู้สึกไม่สบายใจ และไม่รับปากอะไรทั้งสิ้น เดินทางกลับบ้าน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ จึงได้เล่าให้ภรรยา และลูกๆ ฟัง ทุกคนจึงลงความเห็นว่า ต้องแจ้งให้คณะกรรมการที่ลงพื้นที่มาตรวจสอบทราบเรื่อง และต้องแจ้งความเอาผิดกับผู้จัดการสหกรณ์ฯ รวมถึงเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องทุกคน