วันที่ 23 พ.ค. 2566 เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา มีรายงานเข้ามาว่า ได้รับแจ้งเหตุฟ้าผ่าวัวตาย ที่บ้านตะโก หมู่ 13 ต.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และเป็นเคสที่เจ้าของวัวและชาวบ้านต่างมึนงงถึงสาเหตุที่ฟ้าผ่าลงมาได้ ทั้งที่ไม่มีอุปกรณ์สื่อเป็นสายล่อฟ้า
หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนาบ้านตะโก พบวัวเพศเมีย อายุ 4 ปี นอนตายอยู่กลางทุ่งนา ไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยของการถูกฟ้าผ่าแต่อย่างใด โดย นายจำลอง โพธิมาศ อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านตะโก เจ้าของวัว กล่าวว่า…
ตนเลี้ยงวัว 6 ตัว และควายอีก 2 ตัว โดยก่อนเกิดเหตุ ตนเอาวัวไปเลี้ยงตามปกติ ส่วนเจ้าก้อนทอง วัวที่ตัวเองรักที่สุดใน 6 ตัว ในคอกปล่อยออกไปกลางทุ่งนาพร้อมลูก เพื่อให้กินหญ้าธรรมขาติ
นายจำลอง กล่าวต่อว่า ระหว่างนั้น มีเมฆครึ้มมา จึงหันไปมองวัวของตัวเองที่ปล่อยอยู่กลางทุ่งนา กะว่าจะต้อนกลับเข้าคอก เพียงช่วงพริบตาที่มองไปดูวัว เห็นแสงไฟพุ่งเข้ามาที่เจ้าก้อนทอง ก่อนจะได้ยินเสียงดังเล็กน้อย แล้วเจ้าก้อนทองล้มลงต่อหน้า หลังเสียงสงบลง จึงวิ่งเข้าไปดูพบว่า เจ้าก้อนทองตายแล้ว
นายจำลอง กล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุยอมรับไม่ทราบจริง ๆ เพราะตัวเจ้าก้อนทอง ไม่มีอุปกรณ์ที่เป็นสื่อล่อไฟฟ้าได้ ยอมรับว่าตอนนี้ยังงง ว่าเมื่อเกิดฟ้าฝนคะนอง เราควรจะอยู่กลางแจ้งหรือใต้ต้นไม้ดี เพราะถ้าเป็นต้นไม้ใหญ่ ก็อันตรายเช่นเดียวกัน เบื้องต้นค่าเสียหายประมาณ 40,000 บาท ส่วนร่างเจ้าก้อนทองจะฝังแล้วนิมนต์พระมาสวด เพราะตนถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน
