จากกรณีการโพสต์คลิปของ กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ ที่ไปให้ของขวัญลูกสาว น้องวีจิ ถึงหน้าบ้าน หนุ่ม ศรราม โดยมีข้อความระบุว่า… แม่ก็คือแม่ รักและคิดถึงลูกเสมอ ตลอดไป แม่บุกเข้ามาเลยนะวีจิ เพื่อเอาของขวัญ วันเกิดมาแขวนให้ลูกแม่ การบุกรุกแค่นี้ ถือว่าไม่ผิด ครั้งนี้ยืนหน้าบ้าน ไม่ต้องเรียกตำรวจมาไล่ เหมือนครั้งอื่นๆนะคะ
ครั้งนี้แม่มาเพื่อวีจิเลยนะ ได้แค่นี้ก็หรูแล้ว เมื่อเขาไม่ให้คุยผ่านโทรศัพท์ ไม่ให้เจอ มาหลายเดือนแล้ว แม่บุกรักและคิดถึงลูกมากแต่แม่ทำได้แค่นี้ จริงๆ ถึงไม่เห็นหน้าแต่วีจิยืน1ในใจแม่เสมอนะลูก วันเกิดของเราสองคนปีนี้ 8เมษายน 2562 กุน 13เมษายน 2526 กุน เชื่อแม่ฟ้าส่งเรามาให้เป็นแม่ลูกกัน
แม่ก็คือแม่ ไม่มีใครมาแย่งต่ำแหน่งนี้ไปได้ แต่คนบนดินเขากำลังให้ความรักของเรามีระยะทางที่ต้องรอเวลา ตามที่เขากำหนดไว้ ลูกรัก เราแยกกันตอนนี้ แต่วันข้างหน้าเส้นทางของเราจะกลับมาเจอกันเอง ถึงตอนนั้นไม่มีใครกีดกันขวางทางเราได้แน่นอน แม่ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่แบบไม่มีน้ำตา มีแต่รอยยิ้ม ซ่อนด้วยความเจ็บปวด
ใครหน้าไหนก็ตามไม่สามารถทำลายความรู้สึกแม่ให้เจ็บปวดได้อีก ต่อไป ถามว่าอึดอัดไหม เสียใจไหม เจ็บปวดไหม เหนื่อยไหม ท้อแท้ไหม พยายามอีกหน่อยสิ ต้องอดทนอีกนิด บอกเลยว่าเลยจุดนั้นมาแล้ว ยิ้มค่ะแม่ๆ เดินต่อไป
ล่าสุดกุ้งพลอย ได้ออกมาเปิดใจประเด็นบุกบ้านอดีตสามีหอบของขวัญไปห้อยหน้าบ้านให้ลูกสาว ผ่าน ข่าวสด บันเทิง เผยว่าจริงๆไม่ได้เจอลูกมานานมากแล้ว ถ้าไม่ได้เจอน่าจะประมาณ 3 เดือนจากกำหนดที่จะได้เจอ
ช่วงที่ไม่ได้เจอล่าสุดจะเป็นช่วงที่มาทำงานที่พรรคด้วยก็จะมีวันที่ไม่ตรงไม่ได้หยุด เสาร์-อาทิตย์ เราก็ต้องเลื่อนการนัดเจอมาเป็นอีกอาทิตย์นึง พอมาเป็นอีกอาทิคย์ที่ท้ายเดือนเราก็ได้กำหนดไปเจอแล้วก็ไม่ได้เจอ
เหตุที่ไม่ได้เจอเพราะว่าตอนนั้นการที่เราจะได้รับการอนุญาตวิดีโอคอล เราโทรหาลูกทุกวัน การโทรก็ยากอย่างกุ้งพลอยไม่สามารถโทรได้ทุกเวลาที่อยากจะเจอลูก เพราะฉะนั้นเราทำความเข้าใจใหม่หลังจากลูกเลิกเรียน มีอะไรบางอย่างที่ขัดใจก็ก่อนนอน แต่ ณ วันนั้น คือวีจิบอกแม่อยากไปดูหนูว่ายน้ำไหมวันเสาร์
ลูกมีพัฒนาการการสื่อสารมากขึ้น เราก็รับปากว่าได้ จากที่วิดีโอในตอนนั้นก็มีหลายคนที่นั่งอยู่น่าจะได้ยินที่เราพูดและไม่น่าผิดตามกฏหมายที่แม่จะไปเจอลูกที่โรงเรียนก็ได้ ตามกฏหมายถ้าผู้ปกครองฝ่ายใดฝ่ายนึงจะเจอลูกอย่ากีดกัน พี่ก็คิดว่าทำได้ จริงๆ ถ้าเขาแมนพอแบ่งปันให้มากกว่านี้ เขาจะรู้ว่าการที่เเม่เจอลูกมันไม่ใช่เรื่องที่อันตราย เราไม่อยากให้เป็นคดีความใหญ่โตเราจึงใช้สื่อโซเชียลกดดันบ้าง
พอลูกเจอเรา เขาอยากอยู่ข้างๆเรา วันนั้นเราลงไปในสระว่ายน้ำกับลูกด้วย เเละเขา ก็ตะโกนว่าเราที่ลูกไม่ตั้งใจเรียนว่ายน้ำก็เพราะเรา คนที่สระว่ายน้ำเยอะมันเป็นสิ่งที่น่าอับอาย เขาก็ทำสีหน้างุดหงิดใส่เราเเล้วบอกว่าวีจิไม่มีสมาธิ เเละตะโกนด่า มันไม่เเมน เเละวีจิก็อยู่ในเเขนเรา ถ้าลูกไม่อยู่เราคงตะโกนด่าไปเเล้ว เราจึงพูดกลับไปด้วยเหตุผลว่า ทำไมลูกอยากให้เเม่มาอยู่ในนี้ทำไมไม่ได้ ทำไมพี่เลี้ยงอยู่ได้ เราก็ตะโกนกลับไปว่าถ้า พี่ไม่เเมนพอ ในฐานะคนเป็นเเม่หนูอาจจะฟ้องพี่ก็ได้
ที่มา: mama.veeji