จากกรณีนายอดิศร อ่อนมาสาย อายุ 52 ปี ชาวหนองบัวลำภูที่โดนโจรแสบขโมยเงิน 8 หมื่นบาท เมื่อบ่ายวันที่ 3 เมษายน ขณะนอนหลับอยู่ในสวนสาธารณะหนองประจักษ์ เพราะอ่อนเพลียจากการเฝ้าพี่ชายซึ่งป่วยเนื้องอกในสมอง และรอผ่าตัดที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีกว่า 20 วัน
ซึ่งนายอดิศรถึงกับร่ำไห้วอนให้โจรเห็นใจนำเงินที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิตนำมารักษาพี่ชายที่ป่วยหนักมาคืน ทำให้ชาวโซเชียลต่างรู้สึกสงสารให้ไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อจะได้โอนเงินมาช่วย ซึ่งนายอดิศรก็ได้ทำตาม ส่วนตำรวจสืบสวนก็ทำงานเต็มที่เพื่อจับโจรแสบรายนี้มาดำเนินคดีตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าววันที่ 5 เมษายน 2566 เวลา 11.00 น. นายอดิศรและนางกอง ผู้เป็นภรรยาซึ่งมีสีหน้ายิ้มแย้มต่างจากวันที่โดนโจรแสบขโมยเงินพร้อมเล่าว่า เช้าวันนี้พี่ชายได้เข้าผ่าตัดแล้ว แต่ก่อนจะผ่าตัดแพทย์ได้พูดคุยกับตนและญาติว่าหลังผ่าตัดพี่ชายอาจจะเป็นผู้ป่วยติดเตียงหรืออาจจะหายดีซึ่งเป็นได้ทั้งสองทาง ต้องดูแลกันแบบวันต่อวัน
ซึ่งแพทย์ก็จะดูแลรักษาให้เต็มที่ ตนขอขอบคุณคณะแพทย์โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีที่ดูแลเป็นอย่างดี นายอดิศรเล่าต่อว่า… หลังพบแพทย์และพี่ชายเข้าห้องผ่าตัด ตนกับภรรยาได้เดินทางไปธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนประชารักษา เขตเทศบาลนครอุดรธานี เพื่อแจ้งความประสงค์ขอปิดบัญชีรับบริจาคเพราะว่ามีพี่น้องชาวไทยโอนเงินเข้าบัญชี 359,000 บาท
ซึ่งเกินความคาดหมายและเพียงพอต่อการรักษาและดูแลพี่ชาย ซึ่งตนตั้งใจจะมาปิดบัญชีตอนเช้าแต่เพราะแพทย์ขอพูดคุยกับตนและญาติก่อนผ่าตัดจึงมาปิดบัญชีรับบริจาคและจะเปิดบัญชีใหม่เพื่อเก็บเงินไว้ดูแลพี่ชาย นายอดิศรกล่าวพร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณว่า ตนขอขอบคุณน้ำใจจากคนไทยทั่วประเทศที่ช่วยเหลือตนในวันนี้
นายอดิศรเล่าอีกว่า หลังจากดำเนินการปิดบัญชีรับบริจาคเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตนและภรรยาได้เดินทางมากราบสักการะขอพรท้าวเวสสุวรรณโณซึ่งเป็นตราประจำจังหวัดอุดรธานีตั้งอยู่ที่ศาลหลักเมืองอุดรธานีเขตเทศบาลนครอุดรธานี
เพื่ออธิษฐานขอพรท้าวเวสสุวรรณให้พี่ชายที่เข้าผ่าตัดปลอดภัย มีสติ ฟื้นขึ้นมาใช้ชีวิตเป็นปกติ ส่วนลึกในใจตนคิดถึงเรื่องเวรกรรมทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ตนเชื่อมาประจำซึ่งก็ได้เกิดขึ้นกับตนแล้ว ทั้งเรื่องดีและไม่ดีก็มาเกิดขึ้นพร้อมกัน