จากกรณีของ น้องต่อ เด็กชายอายุ 8 เดือน ได้หายออกจากบ้านไปอย่างเป็นปริศนา เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา โดยบ้านเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ ม.6 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม จนถึงวันนี้เข้าสู่วันที่ 14 แล้วของการหายตัวไป เรื่องนี้มีการสอบปากคำพยานแวดล้อมจำนวนมาก
ต่อมามีการเปิดเผยผลตรวจดีเอ็นเอของ น้องต่อ ว่า ดีเอ็นเอระหว่างน้องต่อกับลุงแจ้ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพ่อตรงกัน หมายความว่าทั้งคู่เป็นพ่อลูกกัน ไม่ใช่นายพุด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 18 ก.พ. 2566 บรรยากาศบริเวณละแวกบ้านของน้องต่อ โดยชาวบ้านต่างออกมานั่งจับกลุ่มพูดคุยกันตามปกติ มีทั้งเรื่องข่าวผลดีเอ็นเอ และการเดินทางไปเข้าเครื่องจับเท็จของพ่อ และแม่น้องต่อ นายพุด กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเข้าเครื่องจับเท็จ
กว่าจะกลับถึงบ้านก็ประมาณ 22.00 น. ยังไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องผลดีเอ็นเอที่ออกมากับน.ส.นิ่มเลย เพราะทั้งเหนื่อย อ่อนเพลียจากการเดินทาง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังคงมั่นใจว่าน้องต่อเป็นลูกของตัวเอง ยังไม่ได้เชื่อผลที่ออกมา จนกว่าจะเจอลูกชาย และตรวจดีเอ็นเออีกครั้ง
นายพุด กล่าวต่อว่า ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็ไม่เคยคุยเรื่องนี้กับน.ส.นิ่มว่าน้องต่อไม่ใช่ลูกของตัวเอง เพราะไม่เคยสงสัยเลย ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของตนกับน.ส.นิ่มเปลี่ยนไป
ด้าน น.ส.นิ่ม กล่าวว่า เรื่องดีเอ็นเอน้องต่อที่ออกมาตรงกับลุงแจ้ ไม่เคยรู้จนมาเห็นในข่าว และยังไม่ได้คุยกับลุงแจ้เลยตั้งแต่ลูกชายหายไป ส่วนเรื่องคำถามโดยเฉพาะ เห็นชายเสื้อเหลืองอาจเป็นคนอุ้มลูกไป
ก็ยังยืนยันคำตอบเดิมว่าใช่ และตั้งแต่กลับมาจากเข้าเครื่องจับเท็จก็ยังไม่ได้คุยกับนายพุดเลย เพราะต่างคนต่างเหนื่อยและอ่อนเพลีย และฝากไปถึงคนที่เอาน้องต่อไปให้เอากลับมาคืน เพราะตอนนี้เป็นห่วงมาก