ทำกันได้ลง เจ้าของร้านหมูสะเต๊ะ เอะใจ! ร้านขาดทุนบ่อย สุดท้ายรู้ความจริงแทบหมดตัว

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2565 เวลา 15.00 น. ที่สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นางรัศมีเกล้า จิรกิจนิพัทธ์อายุ 43 ปี เจ้าของร้านหมูสะเต๊ะมังกรทองเยาวราช เดินทางเข้าแจ้งความกับร.ต.ท.ภคภณ ณนคร รองสว.สอบสวนสภ.บางใหญ่

จากกรณีถูกลูกจ้างชื่อนายโพธิ์ อายุ 43 ปี และนางมะ อายุ 45 ปีสองสามีภรรยาสัญชาติเมียนมา ที่รับเข้ามาทำงานเป็นลูกจ้างแปรรูปหมูสดเป็นหมูสะเต๊ะส่งขายแอบยักยอกนำหมูสดออกไปเร่ขายจากราคากิโลกรัมละ 180 บาท เหลือเพียงแค่กิโลกรัมละ 70 บาท มานานกว่า 4 ปี

ทำให้เสียหายหลายแสนบาท พอจับได้ไล่ออก กลับถูกลูกจ้าง 2 ผัวเมียแสบโทรศัพท์ขู่ฆ่าลูกจ้างคนอื่นๆ ที่ทำงาน จนหวาดพนักงานหวาดกลัว จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับลูกจ้าง 2 ผัวเมียสุดแสบให้ถึงที่สุด

นายศุภณัฐ เหลืองจินดารัตน์ อายุ 65 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า… ตนรับ 2 ผัวเมียคู่นี้เข้ามาทำงานเมื่อปี 2561 โดยตอนแรกทั้ง 2 คนยังทำงานไม่ค่อยเป็น แต่ตนกับภรรยาก็ค่อยๆสอนจนเขาทำงานได้ ซึ่งตนก็ดูแลเป็นอย่างดีเปรียบเสมือนกับญาติ ให้พักอยู่ภายในร้าน แถมติดแอร์ให้อีก

โดยให้ค่าจ้างวันละ 600 บาท อาหารการกินตนก็ดูแลทั้งหมด ต่อมาหมูสดที่ตนสั่งเข้ามาทำแปรรูปเป็นหมูสะเต๊ะส่งขายอาทิตย์ละ 300 – 700 กก. แต่ปรากฎว่าปริมาณที่ได้กลับลดลงอย่างต่อเนื่องจนทำให้ร้านขาดทุนมาตลอด

จนกระทั่งมีลูกจ้างที่ทำงานอยู่ในร้านคนหนึ่งมาร้องไห้และบอกความจริงกับตนว่านายโพธิ์กับนางมะ สองสามีภรรยาได้แอบลักลอบนำหมูสดออกไปเร่ขายมานานแล้ว ตนจึงตรวจสอบก็พบว่าเป็นความจริงจึงได้ไล่ทั้ง 2 คนออกจากงานแต่ไม่ได้ดำเนินคดีอะไรเพราะสงสาร

นายศุภณัฐ กล่าวต่ออีกว่า… จนกระทั้งวันนี้นายโพธิ์ และนางมะได้โทรศัพท์มาหาลูกจ้างคนอื่นๆ ว่าจะกลับมาฆ่าทุกคน หากยังทำงานอยู่ที่นี่ ถ้าไม่อยากเดือนร้อนให้ลาออกไป โดยทั้ง 2 คนมีญาติ และเพื่อนทำงานอยู่ในพื้นที่ตลาดบางใหญ่หลายคนทำตัวเป็นมาเฟีย

หลังทราบเรื่องตนกับภรรยาจึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยดำเนินคดีกับอดีตลูกจ้างทั้ง 2 คนให้ถึงที่สุด เพราะเกรงว่าลูกจ้างที่ทำงานอยู่ในร้านจะไม่ปลอดภัย ทุกวันนี้ลูกจ้างไม่กล้าออกไปนอกร้านเพราะกลัวจะเกิดอันตราย

สุดท้ายนี้ตนอยากฝากเตือนเจ้าของร้านค้าต่างๆที่จะจ้างแรงงานต่างด้าวว่าอย่าไว้ใจใครง่ายๆ ถึงแม้ตนจะทำดีขนาดไหนยังถูกหักหลังจนทำให้ได้รับความเสียหาย แถมยังไม่สำนึกบุญคุณที่ตนไม่เอาเรื่องแต่กลับจะมาทำให้ธุรกิจของได้รับความเสียหายอีก

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *