วันที่ 26 พ.ย. 2565 เฟซบุ๊กเพจของ พระไพศาลประชาทร วิ. หรือ หลวงพ่อพบโชค เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นำเสนอภาพสามีภรรยา ชื่อนายอิ่น จินดา อายุ 40 ปี และนางสิงห์นิตย์ จินดา อายุ 38 ปี บริจาคเงินให้วัด พร้อมระบุว่า…
ความมาของการบริจาคดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทำให้ตกตะลึงและแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง เนื่องจากทั้งคู่นำเงินสดค่าสินไหมทดแทนจากกรณีบุตรสาวอายุ 3 ขวบ ถูกรถทับชนจนเสียชีวิตจำนวน 100,000 บาท แต่กลับไม่เก็บไว้ใช้เองและนำไปบริจาคให้กับทางวัดทั้งหมด
หลวงพ่อพบโชค กล่าวว่า… ทั้งสองสามีภรรยา มีบ้านพักอยู่ที่หน้าวัดห้วยปลากั้งและมีบุตรสาวเพียงคนเดียว โดยนายอิ่นมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างทั่วไป ส่วนนางสิงห์นิตย์ มีอาชีพทำแหนมขายในตลาดมีรายได้คนละ 100-200 บาท ถือว่ามีฐานะยากจน แต่เมื่อประมาณ 6 เดือน เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ที่ขับผ่านหน้าบ้านได้ชน และทับศีรษะบุตรสาวจนเสียชีวิตคาที่
ซึ่งวันเกิดเหตุตนและเจ้าหน้าที่วัดได้ไปดู และสอบถามว่ามีค่าจัดงานศพและอื่นๆ หรือไม่ ปรากฏว่าทั้งคู่ไม่มี ทำให้ทางวัดช่วยเหลือค่าโลงศพและจัดพิธีศพให้ทั้งหมด ต่อมาคดีอุบัติเหตุของลูกสาวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมผ่านชั้นตำรวจไปจนถึงชั้นศาล ซึ่งหลวงพ่อได้พยายามให้กำลังใจ และบอกกล่าวกับทั้ง 2 คนว่า หากการเข้าสู่กระบวนการดังกล่าวไม่ใช่ความสุขสูงสุด
แม้เราจะได้เงินมากมายก็ตาม ก็ไม่อาจทดแทนความสูญเสียลูกไปได้ แต่การทำความดีเป็นสิ่งยิ่งใหญ่กว่า ดังนั้นจึงไม่ได้เรียกร้องสิ่งใด และยินยอมในคดีมาโดยตลอด กระทั่งคดีได้ข้อยุติถึงที่สุดให้คู่กรณีจ่ายเงินให้จำนวน 100,000 บาท ทั้ง 2 คนถึงบริจาคให้กับวัด เพื่ออุทิศส่วนบุญไปถึงลูก
ทำให้ตนตกใจมาก และพยายามเกลี่ยกล่อมให้ทั้งคู่นำเงินไปเก็บไว้ใช้ผ่อนเบาความยากจน เนื่องจากทั้งคู่ก็ไม่ได้มีฐานะดีมีรายได้วันละไม่กี่ร้อยบาท ขณะที่หลวงพ่อมีเงินเพื่อทำสาธารณะกุศลอยู่แล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยืนยันที่จะนำเงินจำนวนนี้บริจาคทั้งหมด เพราะพวกเขาได้หารือกันมาเป็นอย่างดีก่อนที่จะนำเงินมาบริจาคแล้ว
ทำให้ทางวัดได้รับเงินไว้สมทบทุนก่อสร้างโรงพยาบาลวัดห้วยปลากั้ง เพื่อสังคมภายในวัดซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการในวันที่ 1 ธ.ค. นี้เป็นต้นไป โดยจะนำชื่อของนายอิ่นและนางสิงห์นิตย์ ติดเอาไว้ตรงด้านหน้าอาคารของโรงพยาบาลเพื่อเป็นเกียรติประวัติต่อไป แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีผู้บริจาคเพื่อสร้างโรงพยาบาลแห่งนี้บางคนบริจาคนับสิบล้านบาทก็มี
ก็จะไม่นำรายชื่อมาติดไว้ด้านหน้าโรงพยาบาลเหมือนกับทั้ง 2 คนนี้ เพราะยังไม่ถือว่าใช่ผู้ที่ทำบุญที่ยิ่งใหญ่ เพราะทั้งคู่เขาเป็นคนฐานะยากจน แม้แต่เงินแสนเขาก็ไม่เคยจับต้องมาก่อน แต่เมื่อได้มากลับไม่เก็บไว้ใช้เองและนำมาทำบุญให้ทั้งหมดจากนั้นก็กลับไปทำงานลำบากเหมือนเดิม พวกเขาจึงถือเป็นคนจนผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง หลวงพ่อพบโชค กล่าว