เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ที่ 13 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
เมื่อไปยังบ้านที่เกิดเหตุ บนช่องฝ้าเพดานที่มีสายไฟระโยงระยาง พบร่างเป็นชายนอนหงายเสียชีวิต ในมือข้างขวากำคีมตัดสายไฟกับสายไฟฟ้าอีก 1 เส้น และมีกระเป๋าอุปกรณ์การต่อไฟคาดอยู่ที่เอว ส่วนที่ข้อมือของผู้เสียชีวิตมีรอยไหม้
ทราบชื่อต่อมาคือ นายยุทธนา อายุ 50 ปี เป็นช่างติดตั้งแอร์ภายในบ้านและอาคารโรงงาน เบื้องต้น ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ฯ ทำการตัดไฟฟ้าภายในบ้านเพื่อเคลื่อนย้ายร่างลงมาให้แพทย์ชันสูตรนั้น ก็พบว่านายยุทธนาน่าจะเสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าดูดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง
จากการสอบถาม ช่างทำฝ้าเพดาน ที่มาทำงานในบ้านหลังเดียวกัน เล่าว่า… บ้านหลังที่เกิดเหตุนี้เป็นบ้านเก่าที่เจ้าของบ้านทำการรีโนเวทใหม่ทั้งหลัง ซึ่งตนนั้นเข้ามารับจ้างติดตั้งฝ้าเพดานใหม่ ส่วนผู้เสียชีวิตก็มาติดตั้งแอร์ใหม่ โดยเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ก็ยังทำงานอยู่ด้วยกันตลอดทั้งวัน
พอมาเมื่อเช้าของวันที่ 19 พ.ย. ตนเองมาทำงานสายประมาณ 10 โมงเช้า พอเข้ามาถึงบ้านก็ได้ยินเสียงวิทยุเปิดเพลงไว้ จึงรู้ว่านายยุทธนามาทำงานแล้ว เพราะปกติจะเข้ามาทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า แต่ก็ไม่พบตัว ซึ่งตนเองก็ไม่ได้เอะใจอะไร จึงเดินไปทำงานอีกห้องหนึ่ง
กระทั่งตอนเกือบเที่ยงลูกชายและภรรยาของผู้เสียชีวิตโทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์ของผู้เสียชีวิต ตนก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังใกล้ๆ แต่ไม่มีผู้รับ จึงลองเดินตามหาและมองไปบนฝ้าเพดานที่เจาะรูไว้ด้วย แต่ก็ไม่เห็นอะไร
กระทั่งตอนเย็นเลิกงานก็ยังไม่เห็นผู้เสียชีวิต จึงตัดสินใจเดินหาอีกครั้ง ก่อนที่จะขึ้นไปตรงฝ้าเพดานแล้วใช้ไฟส่องดูทั่วๆ ก็เห็นว่ามีร่างคนนอนอยู่ จึงมั่นใจว่าน่าจะเป็นนายยุทธนา ก็เลยรีบโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ และตำรวจ 191 เพื่อให้มาตรวจสอบ
ขณะที่ ลูกชายกับภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า… ปกติจะต้องออกมาทำงานพร้อมกัน 3 คน พ่อแม่ลูก ยกเว้นแต่ว่ามีงานหลายงานชนกันก็จะแยกย้ายกันไป โดยวันนี้พ่อได้ออกจากบ้านมาแต่เช้า เพื่อที่จะมาติดตั้งเดินสายท่อแอร์และจั๊มไฟเข้ากับเครื่องแอร์
พอสายๆ ตนก็ได้โทรศัพท์มาหาพ่อแต่ไม่มีใครรับ ก็คิดว่าพ่อน่าจะทำงานอยู่ไม่สะดวกรับโทรศัพท์ จนกระทั่งเย็นมีคนโทรไปบอกว่า พ่อถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะตอนที่พ่อออกจากบ้านมาในตอนเช้านั้น ก็ไม่มีลางบอกเหตุอะไรเลย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพนายยุทธนา ไปให้แพทย์โรงพยาบาลศิริราช ทำการชันสูตรอีกครั้ง ก่อนที่จะให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
