ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่หลายคนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก หลังนายวินัย ขำดี อายุ 70 ปี ประกอบอาชีพเกษตร ทำนา ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ โดยคุณตาเล่าว่า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาร 09.00 น. ขณะยืนกวาดใบไม้อยู่ลานหน้าบ้าน
จังหวะนั้นได้มีหญิงวัยกลางคนอายุประมาณ 45-50 ปี เดินมาหยุดยืนหน้าประตูบ้านลักษณะมาเร่ขายเสื้อผ้า และชักชวนตนพูดคุยเรียกตนเองว่าพ่อๆๆๆ มาดูผ้าไว้ใช้ไหม สำเนียงคล้ายคนต่างชาติ จากนั้นไม่นานทำท่ากระซิบกระซาบบอกกับตนว่าถูกรางวัลที่ 1 แต่ด้วยเป็นคนต่างชาติ จึงไม่สามารถไปขึ้นเงินได้ พร้อมกับหยิบเอาลอตเตอรี่ มาให้ดูเห็น
แต่เลขท้ายหมายเลข 06 จู่ๆ ได้ร้องไห้โฮต่อหน้าตน และช่วงจังหวะเดียวกันนั้น ก็มีรถเก๋งสีเทาขับเข้ามาจอด มีชายหญิงแต่งตัวภูมิฐานเดินลงจากรถมายืนฟังอยู่สักครู่ พร้อมกับอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินมาทำธุระบริเวณนี้พอดี กล่าวว่าลอตเตอรี่ใบนี้ที่ถูกรางวัลที่ 1 สามารถไปขึ้นเงินได้แน่นอน มูลค่าถึง 6,000,000 บาท
และได้เสนอให้ตนมีส่วนแบ่งกันคนละครึ่ง เจ้าหน้าที่ธนาคารมีเงินสดอยู่ประมาณ 700,000 แสนบาท ลุงลงทุนแค่ 300,000 แสนบาท ส่วนหญิงพม่าเจ้าของลอตเตอรี่ บอกขอเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น ไม่รู้อะไรดลใจหลงเชื่อ แต่งตัวขึ้นรถเก๋งไปเบิกถอนเงินสดในบัญชีที่ธนาคารเพื่อการเกษตรสาขาบ้านหมี่
โดยตนถอนเงินจำนวน 300,000 บาท ต่อจากนั้นได้พาตนนั่งรถขับกลับมาที่หน้าบ้าน ระหว่างหญิงที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ตนเอาเงินที่เบิกมา 300,000 บาท ใส่ถุงกระดาษไว้เป็นเงินกองกลางรวมไว้ก่อน หลังจากมาถึงหน้าบ้านได้จอดรถเก๋งแล้วบอกให้ตนลงรถรออยู่หน้าบ้านก่อนอย่าไปไหน
โดยที่เขาจะขอไปส่งหญิงพม่าขึ้นรถกลับบ้านที่ปากทางสักครู่เดียวจะกลับมา จากนั้นทั้ง 3 คนได้หายไปนาน ตั้งสติได้จึงรู้ว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกเอาเข้าแล้วทำให้สูญเงินไปจำนวนมาก