ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ ครูมืด ประสาท ทองอร่าม ปรมาจารย์แห่งการนาฏยสังคีตไทย ทั้งนี้ ครูมืด เป็นปรมาจารย์ด้านวัฒนธรรม ศิลปินด้านศิลปะวัฒนธรรมไทย ซึ่งมีประสบการณ์เป็นครูโขนมากว่า 50 ปี ซึ่งมีผลงานฝากไว้แก่วงการบันเทิงและศิลปะไทยอันทรงคุณค่าไว้มากมาย
นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติด้านดนตรี และ ศิลปิน ประจำปี 2563 สาขา บุคคลต้นแบบผู้ทรงคุณวุฒิ ทางด้านดนตรีและศิลปะการแสดง โดย หออัครศิลปิน Hall Of Jazz ด้วย ครูมืด เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในหลายรายการบนหน้าจอโทรทัศน์ ทั้งยังมีผลงานโด่งดังในด้านการเป็นครูโขน ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั้งลูกศิษย์โดยตรงและทางอ้อม
สำหรับเรื่องราวชีวิตของ ครูมืด จากเด็กสลัมสู่ปรมาจารย์ด้านวัฒนธรรม ชีวิตเคยลำบากถึงขนาดต้องขอข้าววัดกิน บ้านที่อยู่หลังคาติดกันหมด เป็นบ้านที่เช่าเขาอยู่ อาศัยอยู่ข้างวัด แต่บังเอิญถิ่นที่ตนอยู่ถึงแม้จะห่างไกลความเจริญ แต่คนที่อยู่เป็นบุคคลทรงความรู้ และศิลปินแห่งชาติเยอะมาก จึงมีโอกาสเข้าไปเรียนดนตรีนาฏศิลป์ ซึ่งเริ่มจากการที่คุณปู่เป็นนักดนตรีไทย
ครูมืดเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนนาฏศิลป์ ในสาขาดุริยางค์ไทย ในขณะที่ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนาฏศิลป์นั้น ครูมืด ได้รับการคัดเลือกเป็นนักเรียนในพระอุปถัมภ์ ของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร ซึ่งมีดำริให้คัดเลือกเด็กนักเรียน มาทำการฝึกหัดนาฏศิลป์ไทยทุกแขนง ทั้งการเรียนโขน ลิเก สวด แหล่ เห่ กล่อม การพากษ์โขนละคร รวมทั้งการแสดงจำอวด
โดยมีอาจารย์เสรี หวังในธรรม บรมครูด้านนาฏศิลป์ไทยเป็นผู้ดูแลและถ่ายทอดวิชาความรู้ ทำให้ครูมืดได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้ในศาสตร์แห่งนาฏศิลป์ไทยจากอาจารย์เสรี หวังในธรรม และได้รับการยอมรับว่าเป็นศิษย์เอกคนสำคัญของอาจารย์เสรี หวังในธรรม และที่นี่เองทำให้ครูมืดได้สั่งสมความรู้และประสบการณ์ในการแสดงโขน
รวมทั้งเติบโตในตำแหน่งทางราชการ จนกระทั่งเกษียณอายุราชการ ในตำแหน่งหัวหน้างานกลุ่มวิจัยพัฒนางานและการแสดง สำนักการสังคีต กรมศิลปากร ปัจจุบัน ครูมืดได้รับเกียรติจากกรมศิลปากร ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรมไทย มีหน้าที่ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมไทยทุกแขนง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงโขน