วันที่ 10 ตุลาคม 2565 ได้รับการร้องเรียนจาก นางสันทราย รื่นจิตร อายุ 48 ปี พักอาศัย อยู่พื้นที่ ต.ห้วยโป้ง อ.เมือง จ.ระยอง โดยลูกของตนเองได้เข้าไปใช้บริการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง แต่ระหว่างรอคลอดลูกตนเองเจ็บท้อง จึงส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด แต่กลับโดนพยาบาล ดุด่า ดูถูก เหยียดหยาม หาว่าลูกของตัวเองเป็นเด็กติดยา
ซึ่งตนเองเป็นแม่เมื่อทราบข่าวจึงเกิดความไม่สบายใจ จึงอยากให้สื่อนำเสนอข่าวเพื่อให้พยาบาลที่ก่อเหตุ ดูถูกลูกของตน ให้รู้ว่าไม่ควร ประพฤติตน แบบนี้เพราะ อาชีพพยาบาล เป็นอาชีพที่มีเกียรติ ซึ่งการกระทำแบบนี้จะสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับพยาบาลคนอื่นได้
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้แจ้งความหมิ่นประมาทพยาบาลคนดังกล่าว แต่อยากให้เขาปรับปรุงตัวเพราะทราบจากชาวบ้านหลายๆ คนว่า ถ้าไปที่โรงพยาบาลนี้แล้วเจอพยาบาลคนนี้ก็เจอดุด่าแบบนี้ตลอด ทางด้าน น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์โดนพยาบาลดุด่า ดูถูกเหยียดหยามนั้น เกิดขึ้นที่ห้องรอคลอด
โดยในวันเกิดเหตุตนเองนอนรอคลอด และมีอาการเจ็บท้องคลอดมาก จึงส่งเสียงร้อง แต่พยาบาลกลับมาดุด่า หาว่าจะร้องอะไรนักหนาและหาว่าตนเองเสพยาเสพติดอีกด้วย ซึ่งสามีของ น.ส.เอ (แต่งงานกันแล้ว) อายุ 22 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนตนเองไปรับยา ก็ถูกเจ้าหน้าที่ห้องรับยาถามว่า เป็นต่างด้าวหรือเปล่า ซึ่งตนเองโดนจนชิน เพราะนามสกุลตนเองอ่านออกเสียงยาก
เวลาไปโรงพยาบาลนี้ทีไร จะถูกเจ้าหน้าที่มองเหยียดๆ เสมอว่าเป็นต่างด้าว แต่แท้จริงแล้วนามสกุลของตนนั้น ต้นตระกูลพ่อแม่มาจากประเทศจีนจึงได้นามสกุลนี้มา และยืนยันว่าตนเองเป็นคนไทย 100 % อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนเองอยากให้เจ้าหน้าที่อย่าเลือกปฎิบัติ
เพราะถึงจะเป็นคนไทยหรือต่างด้าว เขาก็เสียเงิน ไม่ได้ไปขอบริการฟรีๆ เงินเดือนที่พวกคุณได้ ก็มาจากประชาชนไปใช้บริการนี่แหละ แล้วจะมาเลือกปฎิบัติทำไม จึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่า ควรพูดจาให้ดีดี และอย่าดูถูกเหยียดหยามกัน
