จากกรณีที่เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ จ.อุดรธานี เป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 16 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมถนนเกือบทุกสายในเขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยเฉพาะถนนโพศรี หน้าสำนักงานที่ดินจังหวัดอุดรธานี ถ.ศรีสุข หน้าโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล และ ถ.ศรีชมชื่น หน้าโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ซึ่งเกิดน้ำท่วมสูงเกือบ 50 เซนติเมตร
จนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อไฟดูดเด็กชาย อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ถูกไฟฟ้าชอร์ตนอนแน่นิ่งจมน้ำท่วมถนน อยู่โคนเสาไฟฟ้าด้านหลังโรงเรียน ถ.ศรีชมชื่น กระทั่ง นายอรรคชัย อาจอุดม อายุ 19 ปี หรือ น้องบาส นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิค ปวส. แผนกเทคนิคคอมพิวเตอร์ ขับรถผ่านมาและรถจักรยานยนต์เครื่องดับ เห็นเด็กชายถูกไฟดูดเข้าไปช่วยเหลือทันที แม้ตัวเองจะถูกไฟดูดด้วย แต่ทั้งสองคนก็รอด ท่ามกลางเสียงชื่นชมยกให้น้องบาสเป็นฮีโร่ คนแห่ชมกันทั้งเมือง
เปิดใจ น้องบาส นศ.เทคนิค ฮีโร่เมืองอุดรฯ ช่วยนักเรียน ม.1 ถูกไฟดูด นอนนิ่งจมน้ำท่วม ล่าสุดเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 17 ก.ย.2565 ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เดินทางไปเยี่ยม น้องบาส นายอรรคชัย อาจอุดม ฮีโร่ที่ช่วยน้องม.1 โรงเรียนอุดรพิทยานุกูลถูกไฟดูด โดยผู้ว่าฯ ได้เยี่ยมให้กำลังใจทั้งน้องบาส และเด็กชาย อายุ 13 ปี พร้อมกับมอบกระเช้าดอกไม้และเงินส่วนตัวให้เป็นกำลังใจจำนวนหนึ่ง น้องบาส กล่าวว่า…
วันเกิดเหตุตนกลับจากขับแกร็บฟู้ดผ่านมาทางถนนศรีชมชื่น ด้านหลังโรงเรียนสตรีราชินูทิศ ช่วงนั้นฝนตกหนักทำให้รถตนจมน้ำและเครื่องดับ จึงจอดริมถนนฝั่งตรงข้ามโรงเรียน จังหวะนั้น เห็นน้องผู้หญิงทราบชื่อต่อมา น.ส.จิดาภา (ขอสงวนนามสกุล) นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนสตรีราชินูทิศถูกไฟดูดตรงเสาไฟส่องสว่าง และมีคนไปช่วยรถพยาบาลมารับ
ไม่นานสักพักก็เห็นน้องผู้ชายนักเรียนโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล เดินฝ่าน้ำก็เกิดไฟดูดตรงเสาไฟฟ้าส่องสว่างน้องเขาล้มลงทันที ผมก็ตกใจ และวิ่งเข้าไปช่วยแต่ก็รู้สึกมึน ๆ เพราะขาโดนไฟดูดเหมือนกัน แต่ในใจคิดว่าต้องเอาน้องออกมาให้ได้ โดยมีน้องนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวะยื่นร่มให้ แต่บังเอิญร่มหัก จึงตัดสินใจฮึดสุดท้าย เป็นอะไรก็เป็น ดึงร่างน้องออกมาทันที ยอมรับตอนที่ดึงน้องออกมาตนก็ถูกไฟดูดด้วย ดีใจที่ช่วยน้องออกมาได้ ขอบคุณทุกกำลังใจแรงใจที่ส่งมาให้
น้องบาส กล่าว ด้าน นางสุพรรณี แซ่ลืม อายุ 65 ปี ยายของน้องบาส กล่าวว่า ตนทราบข่าวจากโทรทัศน์โดยหลานสาวเปิดให้ดูว่ามีไฟฟ้าชอร์ต จากนั้นหลานก็โทรมาหาบอกว่านอนอยู่ที่โรงพยาบาล หลังรู้ข่าวรู้สึกดีใจและตกใจ ไม่คิดว่าหลานตัวเองจะบ้าบิ่นขนาดนี้ ยอมรับว่าตอนนั้นตกใจมากพูดไม่ออก เมื่อรู้ว่าหลานปลอดภัยดีก็ดีใจมากและภูมิใจที่หลานได้ช่วยชีวิตคน
นางสุพรรณี กล่าวต่อว่า… ทั้งนี้ ตนอยู่กับหลาน 2 คน พ่อแม่เขาแยกทางกันไปนานแล้ว มีตนและลูกสาวช่วยกันเลี้ยงดูหลานคนนี้ โดยหลานจะขับแกร็บฟู้ดหารายได้เพิ่มให้ตัวเองไปโรงเรียน ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้น้องบาส ขณะที่ เด็กชายที่ถูกไฟดูด กล่าวว่า ขณะกำลังรอแม่มารับ ตนกำลังเดินผ่านจุดนั้น เมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็รู้สึกชาตรงเท้า จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย รู้สึกขอบคุณที่พี่เข้ามาช่วยเหลือ และดีใจที่รอดชีวิตไปได้ ส่วนตัวนั้นไม่รู้จักกับพี่เขามาก่อน ขอบคุณพี่บาสมากๆ
ส่วน น.ส.กนกรัตน์ เลยชัยภูมิ แม่ของเด็กชาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ต้องขอบคุณน้องที่ช่วยชีวิตลูกสาวลูกชายแม่ ขอบคุณสังคมไทยที่ยังมีคนแบบนี้อยู่ ถ้าไม่มีผู้ชายแบบนี้ ลูกชายอาจจะอาการหนักกว่านี้หรือเสียชีวิต ต้องขอบคุณความกล้าหาญ ขอบคุณในความดี บุญบารมีที่เราสร้างมาด้วยกัน ขอให้น้องเจริญในชีวิต ชีวิตนี้ถือว่าเราเป็นหนี้ชีวิตกัน ขอบคุณคุณยายที่เลี้ยงน้องมาอย่างดี ถ้าลูกของตนไม่ได้หลานคุณยายอาจจะแย่กว่านี้
ด้าน นพ.สุมน ตั้งสุนทรวิวัฒน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุดรธานี รักษาการ ผอ.รพ.อุดรธานี เปิดเผยว่า อาการของเด็กชาย อายุ 13 ปี อยู่ในขั้นดี ปลอดภัยแล้ว แต่หมอยังให้รอดูอาการอีก 2-3 วันให้หมอเอกซเรย์สมองดูก่อน เพราะน้องจมน้ำหลายนาที และเรื่องปอดปกติดีไหม หากไม่เป็นอะไรมากวันที่ 19 ก.ย. 2565 นี้ น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ ส่วนน้องบาสอาการดีขึ้น บ่ายวันนี้น้องบาสก็กลับบ้านได้