จากกรณีที่พบจระเข้ 4 ตัว ที่คาดว่าหลุดจากฟาร์มเข้ามาอยู่ในนาข้าวของชาวบ้าน ต.ห้วยราช อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ โดยจับได้แล้ว 3 ตัว ส่วนตัวที่ 4 ยังหาไม่พบ เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัด พร้อมด้วยหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนลำนางรอง จ.บุรีรัมย์ พยายามลาดตระเวนแกะรอยค้นหาทั้งคืน แต่ไม่เจอตัว คาดว่ายังคงซ่อนตัวอยู่ในทุ่งนา
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 ก.ย. 2565 เจ้าของนาข้าวที่จระเข้หลุดเข้ามาอยู่ในทุ่งนาได้แจ้งประมงจังหวัด และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถาน ว่า พบจระเข้ตัวที่ 4 แล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัด และหน่วยกู้ภัยจึงนำอุปกรณ์เดินทางไปยังทุ่งนา เพื่อจะไปช่วยกันจับจระเข้ตามที่ได้รับแจ้ง
เมื่อไปถึงพบจระเข้อยู่ในทุ่งนาฝั่งที่ติดกับพื้นที่เอกชน ใกล้กับฟาร์มเลี้ยงจระเข้แห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่และกู้ภัยฯ เตรียมอุปกรณ์ที่จะเข้าจับจระเข้ตัวดังกล่าว แต่ปรากฏว่าเจ้าของฟาร์มเลี้ยงจระเข้ที่อยู่ใกล้กับนาข้าว ได้นำบ่วงเชือกมาคล้องจับจระเข้ตัวดังกล่าว แล้วลากกลับไปที่ฟาร์มต่อหน้าเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยฯ ทั้งที่ปฏิเสธมาตลอดว่าจระเข้ทั้ง 4 ตัวที่พบในทุ่งนาไม่ได้หลุดออกมาจากฟาร์มของตัวเอง ทำเอาเจ้าหน้าที่ประมงและกู้ภัยต่างยืนงง แต่ทำอะไรไม่ได้
นายสุริยันต์ วรรณวงษ์ ประมงจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า… จากกรณีดังกล่าวทางประมงจังหวัดจะเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของฟาร์มให้เข้าใจถึงข้อกฎหมาย และเร่งทำหนังสือให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงฟาร์ม หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม หรือมีจระเข้หลุดออกมาสร้างความเดือดร้อนและเป็นอันตรายกับบุคคลอื่นก็จะดำเนินการตาม พ.ร.ก.ประมงต่อไป
ด้านภรรยาของเจ้าของนาข้าวที่จระเข้หลุดเข้ามา กล่าวว่า แปลกใจว่าหลังจากแจ้งให้เจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยมาช่วยจับจระเข้ตัวที่ 4 ที่หลุดเข้ามาอยู่ในนาข้าว แต่กลับมีเจ้าของฟาร์มที่อยู่ใกล้เคียงมาจับ แล้วลากจระเข้ตัวดังกล่าวไปที่ฟาร์มของตัวเอง ทั้งที่ปฏิเสธว่าไม่ใช่จระเข้ที่หลุดมาจากฟาร์ม ถ้าไม่ใช่แล้วมาจับไปทำไม ควรจะให้เจ้าหน้าที่เป็นคนดำเนินการ