เรียกได้ว่าหลายคนก็คงจะสงสัยไม่น้อยว่าแน่นอนว่าประเด็นที่ยังคงเป็นกระแส และได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในตอนนี้ ก็คงหนีไม่พ้นคดีเกี่ยวกับ FOREX-3D ที่ทุกสื่อยังคงนำเสนอกันอย่างต่อเนื่อง ในหลากหลายแง่มุม เพราะดูเหมือนยิ่งนานวัน ก็จะยิ่งปรากฏรายชื่อผู้ที่ถูกมองว่าอาจจะมีส่วนร่วมในเครือข่ายนี้โผล่ขึ้นมา
ซึ่งก็ต้องรอให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการทางกฎหมายที่จะต้องสืบสวนสอบสวนความเกี่ยวข้อง และเชื่อมโยงกันต่อไป หมายรวมถึง แมน – พัฒนพล มินทะขิน และ ใบเตย – สุธีวัน กุญชร หรือ ใบเตย อาร์สยาม ที่จะต้องเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา 3 ข้อหาหลัก คือ ฐานความผิดโดยทุจริตหลอกลวง, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกง ที่ กองคดีการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ก่อนในวันที่ 15 ก.ย.นี้ เวลา 10.00 น. อย่างไรก็ตาม ทั้งสองสามี ภรรยา ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็น เกี่ยวกับคดีดังกล่าว
แต่กระนั้นก็ไม่วายมีการขุดคุ้ย และนำเสนอถึงแง่มุมความสนิทสนม และสัมพันธภาพระหว่าง ดีเจ. แมน กับผู้บริหาร FOREX-3D ไม่เว้นแต่ละวันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นภาพที่มีการรับประทานอาหารร่วมโต๊ะ หรือออกกิจกรรมต่างๆ ด้วยกัน ขาดเพียงแต่การไปปรากฏตัวตามงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรง กับ FOREX-3D ซึ่งถือว่าแตกต่างกรณีของ พิ้งกี้-สาวิกา
ขณะที่เมื่อมีการเข้าไปสืบค้นจากแฟนเพจ Apiruk Kothi ก็พบว่า มีการโพสต์คลิปที่แสดงถึงความสนิทสนมกับฝั่งของ ดีเจ แมน อยู่หลายคลิปเช่นกัน ไล่เรียงกันมา ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2017 ที่มีการโพสต์คลิปขณะเจ้าตัวกำลังนั่งดีดกีต้าร์ โดยมีฝ่ายหลังนั่งร้องเพลงข้างๆ พร้อมระบุข้อความว่า “ปัดฝุ่นนิดหน่อยครับ” และมีการแทกหาเฟซบุ๊กของอีกฝ่าย
หรือในวันที่ 25 ตุลาคม ปีเดียวกัน ก็มีการโพสต์คลิปย้อนหลังบรรยากาศงานวันเกิดของเจ้าตัวที่กำลังร้องเพลงบนเวที และภายในคลิปดังกล่าว ก็ปรากฏว่ามีสามีของนักร้องสาวสั้นเสมอหูร่วมร้องเพลงอยู่ด้วย แถมยังมีนักแสดงสาว พิ้งกี้ สาวิกา ด้วยเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ทุกคนตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ปกติ ก็คือเส้นทางการเงินของ ดีเจ แมน เอง ที่พบว่ามีเงินโอนเข้าบัญชี ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท และเมื่อมีการย้อนดูในเรื่องของชีวิตส่วนตัวของทั้ง ดีเจ แมน และ ใบเตย ก็พบว่ามีไลฟ์ไตล์ที่หรูหรา ฟู่ฟ่าไม่น้อยเลยทีเดียว
โดยทั้งคู่เป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังงาม มูลค่าไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว ขนาด 2 ชั้น ปลูกสร้างอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 130 ตารางวา เรียกว่าโอ่อ่า ใหญ่โต กว้างขวาง สมฐานะ เหมาะสำหรับการพักอาศัยแบบครอบครัว พรั่งพร้อมด้วย Eldercare Solution ที่เอื้ออำนวยต่อผู้สูงอายุ เช่น ทางลาดบริเวณหน้าประตูสำหรับใช้ วีลแชร์หรือรถเข็นเด็ก ภายในบ้านก็มีการตกแต่งอย่างสวยงาม มีรสนิยม ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่นเพดานสูง ที่ให้บรรยากาศปลอดโปร่ง และเย็นสบาย
โดยผนังด้านข้างตกแต่งด้วยหินเพิ่มพลังหรือเขียวเหนี่ยวทรัพย์ สีมงคลประจำวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันเกิดของเจ้าของบ้านฝ่ายชาย มีส่วนของ Double Living Room ที่เชื่อม 3 พื้นที่ คือ ห้องนั่งเล่นวิวสวนข้างบ้าน ห้องกินข้าว และครัวฝรั่ง รวมไว้ในพื้นที่เดียวกัน นอกจากนั้น ยังมีมุมสวนหน้าบ้าน ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นต้นพุดเศรษฐี ต้นแก้ว ต้นจิก รวมถึงเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพิฆเนศสำหรับไว้บูชา
ท่ามกลางความโอ่อ่าใหญ่โตระดับคฤหาสน์ สิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย ก็คือประดากระเป๋าแบรนด์เนมของเจ้าของบ้านฝ่ายหญิง ที่มีรวมๆ แล้วเกือบ 100 ใบ แทบจะเรียกเป็นช้อปขนาดย่อมๆ ได้เลยทีเดียว สนนราคารวมๆ กันก็น่าจะหลักหลายล้านอยู่ ยังไม่นับรวมถึงนาฬิกาหรู กับเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวที่มีอยู่เต็มตู้ เงินชอปปิ้งอีกไม่ต่ำกว่า เดือนละ 5 ล้าน ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ทั้งคู่แต่งงาน เฉพาะเงินสินสอดทองหมั้น ก็ปาเข้าไป 40 ล้าน เข้าไปแล้ว
แน่นอนว่า จากข่าวคราวที่ปรากฏอย่างต่อเนื่องในสื่อ แม้จะยังไม่มีบทสรุปที่ชัดเจน แต่ทั้งคู่ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ถึงขนาดที่ถูกยกเลิกงานจ้างทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะฝ่ายหญิง ที่นับงานละครไว้ 1 เรื่อง ก็ถูกผู้จัดเปลี่ยนตัวไปเรียบร้อยแล้ว เพราะเกรงว่าคดีดังกล่าว จะกระทบมาถึงงานนั่นเอง