จากกรณีของดารานักแสดงสาว พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช ที่ยังคงถูกคุมขัง ล่าสุด แพท พาวเวอร์แพท ฝากถึง พิ้งกี้ แพท พาวเวอร์แพท ดีใจได้มาช่วยงานราชทัณฑ์ บอกจัดต่อเนื่องทุกปี ชวนอุดหนุนผลิตภัณฑ์ของพี่น้องผู้ต้องขัง พร้อมฝากถึง พิ้งกี้ ให้รับสภาพความเป็นจริงให้ได้เร็วที่สุด อย่าไปคิดถึงอดีตหรืออนาคต ลั่นตอนนี้เรือนจำไม่ได้น่ากลัวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว สิทธิความเป็นมนุษยชนขั้นพื้นฐานมีเต็มที่
มาช่วยงานของกรมราชทัณฑ์อยู่เสมอไม่ได้ขาด สำหรับนักร้องหนุ่ม แพท พาวเวอร์แพท หรือ วรยศ บุญทองนุ่ม ที่ล่าสุดก็มาร่วมงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ ครั้งที่ 53 ประจำปี 2565 “HOPE ความหวัง หลังกำแพง ณ บริเวณสนามด้านหน้าเรือนจำคลองเปรม กทม. ซึ่งหนุ่มแพทเผยว่าดีใจที่ได้มีส่วนร่วมในครั้งนี้ วันนี้ก็มาให้กำลังใจผู้ต้องขั-งครับ เป็นงานนิทรรศการราชทัณฑ์นะครับ ครั้งที่ 53 ผมก็รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้เป็นส่วนร่วมในงานวันนี้
ในการให้กำลังใจเพื่อนพี่น้องผู้ต้องขัง ในงานก็จะมีสินค้า มีผลิตภัณฑ์ของผู้ต้องขังมากมาย หลากหลาย จากเรือนจำทั่วประเทศเลยที่มาอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเฟอร์นิเจอร์ งานศิลปะ หรือแม้แต่นวดแผนไทย มีดูดวงไพ่ยิปซี มีหมดทุกอย่างเลย ก็ถือเป็นกิจกรรมดีๆ จริงๆ แล้วราชทัณฑ์เขาจัดทุกปีอยู่แล้ว แต่ปีนี้จัดแบบยิ่งใหญ่ และเราก็มีโอกาสเป็นส่วนร่วมในวันเปิดวันนี้ด้วย
ใครที่สะดวกอยากจะเชิญชวนมาชมผลงานเพื่อพี่น้องเรานะครับ ที่ลานด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม จนถึงวันที่ 4 ก.ย.นี้เลยครับ ผมก็ได้ทำหน้าที่เป็นวิทยากรในกิจกรรมต่างๆ ด้วย ที่ผ่านมาก็จะมีเป็นวิทยากรให้กับน้องๆ เยาวชน ในการแนะนำการใช้ชีวิต แชร์ประสบการณ์ความผิดพลาดของเรา ไม่ให้น้องเขาเดินทางผิดพลาดอีก และมีให้ความรู้กับน้องๆ ที่ศาลเยาวชนด้วย
ที่เขาอาจจะเคยทำผิดไป ก็ให้เขารู้ว่าชีวิตที่เราใช้อยู่ในเรือนจำจริงๆ แล้วมันเป็นความทรมาน ความทุกข์ขนาดไหน ไม่ให้เขาก้าวพลาดถลำลึกไปมากกว่านั้น และจะมีงานในลักษณะนี้อีกหลายๆ งานเลย และในช่วงที่เราบรรยายอยู่ก็จะมีการเล่นดนตรีแทรกไปด้วย เพราะมีหลายๆ เพลงที่ผมแต่งที่ให้ข้อคิด และสอดแทรกแนวคิดอะไรบางอย่างที่ดีๆ ให้กับวัยรุ่นเยาวชนด้วยครับ
ฝากถึง พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช บอกให้มองความเป็นจริง ปรับตัวให้เร็วที่สุด ผมว่าจุดเริ่มต้นอาจจะต้องอยู่บนความจริงก่อน ว่า ณ วันนี้หรือในเวลาอันใกล้นี้เราจะต้องอยู่ในเรือนจำแน่ๆ การที่เราจะต้องอยู่แน่ๆ เราจะทำยังไงให้อยู่แล้วมีความสุข ให้อยู่กับคนอื่นให้ได้ อันดับแรกก็ต้องปรับตัวกับเรื่องการใช้ชีวิต เรื่องกฎระเบียบต่างๆ ความเป็นอยู่แน่นอนมันลำบากแน่ๆ มันก็คงจะไม่เหมือนที่บ้าน
แต่เราต้องอยู่แล้ว ก็ต้องสร้างความเข้มแข็งให้ใจเราให้ได้ และพยายามมองหาสิ่งที่จะมาชดเชยเวลาที่อาจจะปล่อยไป มันทำให้เราเครียดได้ เราอาจจะอ่านหนังสือ หากิจกรรมอะไรที่เขามีให้ทำในเรือนจำ ที่จะทำให้เราใช้เวลาได้อย่างมีประโยชน์ เช่น การวาดรูป การเรียน การเล่นกีฬา เขามีกิจกรรมเยอะแยะมากมายที่ให้เราทำ แล้ววันนึงมันจะผ่านไปได้ไว และพอเรามีเป้าหมายอื่นๆ เช่นงานหรือกิจกรรมอะไรก็ดี ที่เราสามารถพอจะหาได้ที่อยู่ในเรือนจำ
เป้าของเราก็จะเปลี่ยนไปที่จุดนั้น ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องข้างนอก อยากจะให้มองถึงสิ่งที่เราอยู่ เรื่องที่เราอยู่ตรงหน้า เรื่องอดีต อนาคตอะไรตัดไปก่อน มองแค่วันนี้ พรุ่งนี้ แบบนี้จะช่วยได้มาก บอกการปรับตัวเร็ว ช้าขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคล แต่ทุกวันนี้ราชทัณฑ์ก็ไม่ได้แย่เหมือนสมัยก่อนแล้ว การปรับตัวอันนี้อยู่ที่บุคคลนะครับ แต่สำหรับผมเวลามันจะค่อยๆ ทำให้เราค่อยๆ ซึมซับและเคยชินไปเอง คิดว่าคงไม่นาน และเดี๋ยวนี้ราชทัณฑ์ก็ไม่ได้แย่นะ เขาก็ปกครองกันแบบพี่แบบน้อง
การเป็นอยู่ เขาก็พยายามให้เราอยู่ในสภาพที่เหมาะสม ผมว่าทุกวันนี้ราชทัณฑ์ไม่เล-วร้า ยเหมือนสมัยก่อน มีเรื่องการดูแลสิทธิมนุษยชนด้วย เรื่องอาหารการกินที่พักหรือความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐาน ที่เขาจะจัดให้กับทางผู้ต้องขั-งอยู่แล้ว ผมว่าใช้เวลาแป๊บนึงก็น่าจะปรับตัวได้
ถามว่าสามารถรับรู้ข่าวสารข้างนอกได้บ้างไหม เรื่องข่าวจะโดนจำกัดนะ เราต้องเข้าใจตรงนี้ ในเรื่องความมั่นคง ความปลอดภัยของทางเรือนจำเขา แต่การติดต่อกับญาติหรือคนภายใน เขาสามารถติดต่อได้ ทางเรือนจำก็จะมีจดหมาย มีอีเมล์ มีการพบญาติผ่านไลน์ เหมือนกับวิดีโอคอล ที่อยู่ในขอบเขตที่ทางราชทัณฑ์เขากำหนดให้ ก็ไม่ได้ตัดขาดโลกภายนอกไปซะทีเดียว ก็ยังมีหลายๆ ทางที่ราชทัณฑ์ทำอยู่
ไม่สามารถเช็กข่าวตัวเองได้เลย แต่สามารถติดต่อคนภายนอกได้ ญาติสามารถมาเยี่ยมได้ อันนั้นก็สอบถามได้ แต่ถ้ามานั่งดูข่าว คือไม่มีข่าวให้ดู ไม่มีเลย หนังสือพิมพ์ก็ไม่มีนะ สื่อบันเทิงก็ไม่มี คือถ้าเป็นข่าวที่เกี่ยวกับความล่อแห ล มหน่อย เกี่ยวกับเรื่องคดี เรื่องความรุนแรง คือไม่มีเลย แต่ถ้าจะติดต่อทนายความได้อยู่แล้ว มันเป็นสิทธิที่เขากำหนดให้ติดต่อทนายความได้ในระหว่างที่เราอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี
บอกอยู่ในเรือนจำคงไม่ได้สบายเหมือนอยู่บ้าน แต่การอยู่เรือนจำก็ไม่ใช่ชีวิตจะจบสิ้น มันไม่ได้ลำบากขนาดนั้นครับ ตอนนี้เป็นยุคใหม่แล้ว แค่ปรับตัวให้ได้ แต่มันอาจจะไม่ได้สุขสบายเหมือนอยู่บ้านแน่ๆ แหละ และต้องอยู่กับคนหมู่มาก โดยความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐาน ราชทัณฑ์ยุคนี้เขาจัดให้เต็มกำลังแล้ว ถามว่าถ้าออกมาแล้วสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ไหม อันนี้มันก็อยู่ที่ตัวบุคคล คือการเข้าไปอยู่เรือนจำไม่ได้หมายความว่าชีวิตมันจบสิ้นแล้ว มันเป็นแค่ช่วงชีวิตนึงของคนๆ นึงเท่านั้นเอง