เว็บไซต์ต่างประเทศ Ladbible ได้รายงานเรื่องราวของ คริสตินา ออซเติร์ก หญิงสาวชาวรัสเซียวัย 24 ปี ซึ่งได้กลายมาเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลก จากการเป็นคุณแม่ที่มีลูกถึง 22 คน และหวังจะสร้างครอบครัวใหญ่มีลูกให้ได้ถึง 105 คนกับสามีมหาเศรษฐี อย่างไรก็ตามในขณะนี้หญิงสาวได้ออกมาเปิดใจ เล่าฝันร้ายที่ต้องเลี้ยงลูก ๆ ทั้งหมดด้วยตัวเอง หลังจากที่สามีของเธอถูกจับ
ทางรายงานเผยว่า… คริสตินาได้แต่งงานกับ กาลิป ออซเติร์ก มหาเศรษฐีชาวตุรกีวัย 57 ปี และมีลูกด้วยกันกับเขาผ่านวิธีการอุ้มบุญ เพื่อมุ่งไปสู่จุดหมายในการสร้างครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยเมื่อปี 2564 คู่รักเปิดเผยว่าหมดค่าใช้จ่ายไปถึง 138,000 ปอนด์ (ราว 5.8 ล้านบาท) ในการอุ้มบุญเพื่อที่จะได้มีลูกด้วยกัน 20 คน ภายใน 1 ปี และหลังจากนั้นพวกเขาก็ให้กำเนิดลูกเพิ่มอีก 2 คน
ก่อนหน้านี้ คริสตินาและกาลิปยังได้เผยถึงค่าใช้จ่ายอันมากมายที่ต้องใช้ในการเลี้ยงลูก 22 คน โดยพวกเขาต้องจ่ายเงินปีละ 67,000 ปอนด์ (ราว 2.8 ล้านบาท) เพื่อจ้างพี่เลี้ยง 16 คนมาดูแลลูก ๆ นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอีกสัปดาห์ละ 4,000 ปอนด์ (ราว 1.6 แสนบาท) ในการซื้อของที่จำเป็นสำหรับทารก รวมถึงผ้าอ้อมสำเร็จรูป 20 ห่อ และนมผงอีก 53 แพ็ก
แต่แม้จะมีค่าใช้จ่ายมากมายแค่ไหน ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับกาลิป ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทรถบัส Metro Turizm และครอบครัวใหญ่ของพวกเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันที่ประเทศจอร์เจีย อย่างไรก็ตาม ไม่นานมานี้คริสตินาเพิ่งจะออกมาเปิดใจผ่านอินสตาแกรม เผยถึงเรื่องที่สามีถูกกองกำลังพิเศษบุกเข้ามาจับกุมตัวตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเธอก็กำลังเฝ้ารอการกลับมาของเขาอย่างใจจดใจจ่อ
โดยหลังการจับกุมตัวมหาเศรษฐีรายนี้ ทางการก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า เป็นการจับกุมในข้อหาปลอมแปลงเอกสารและการฟอกเงิน คริสตินายอมรับว่า… สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เป็นเรื่องยากที่เธอจะโฟกัสเรื่องบวกในตอนนี้ และหวังว่าสามีจะกลับบ้านในเร็ววัน เธอมั่นใจว่าเขาจะได้กลับมาในไม่ช้า แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง ก็คือการบอกความจริงเรื่องที่พ่อถูกจับให้ลูกสาวคนโตทราบ
คุณแม่ยังสาว เผยว่า… ลูกสาวคนนี้โตพอจนรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกิดขึ้น เธอใช้เวลาอยู่นานเพื่อที่จะบอกลูกว่า พ่อของลูกอยู่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้น และทำไมครอบครัวของเราจีงมีเรื่องวุ่นวายเข้ามา เพราะเธอคิดว่าเป็นเรื่องถูกต้องที่เธอจะบอกข้อมูลทั้งหมดให้ลูกรู้ แทนที่จะปล่อยให้ลูกไปรู้เรื่องจากคนอื่น ๆ ที่พูดถึงข้อมูลเท็จหรือใส่ร้ายพ่อของลูก อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้น แต่เธอก็ขอขอบคุณกำลังใจจากผู้คนที่คอยสนับสนุน และคำพูดดีๆ ที่มีให้
ที่มา: Ladbible, The Sun