วันที่ 15 ส.ค. 2565 หญิงสาวอายุ 31 ปี พนักงานเอกชนร้องเรียนหลังนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อเช็กสภาพรถในพื้นที่ จ.นครราชสีมา แล้วปรากฎว่ารถได้รับความเสียหายอย่างหนัก สร้างความตกตะลึงให้กับตนอย่างมาก อ่านข่าว สาวโวยเอารถไปเคลมสี สุดท้ายพังยับทั้งคัน ลั่นขอคันใหม่ ทั้งนี้ตนนำรถเข้าศูนย์เมื่อเดือนก่อน เมื่อไปรับรถพบว่ามีรอยที่กันชนหลัง
ทางพนักงานแจ้งว่าได้ถอยรถไปชนรถอีกคันที่จอดในศูนย์ ทางพนักงานแจ้งว่าจะทำสีให้ใหม่ แต่ตนต้องการรถไปใช้ทำงานต่างจังหวัด จึงนำรถไปก่อน จากนั้นวันที่ 29 ก.ค. 2565 จึงเอาเข้าศูนย์เพื่อทำสีตามที่ตกลง นัดรับรถวันที่ 1 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา
ต่อมาวันที่ 30 ก.ค. 2565 ทางศูนย์แจ้งว่ารถตนถูกชนท้าย ขณะจะนำรถเข้าอู่อีกที่ ตนเห็นสภาพรถพังยับเยินทั้งด้านหน้า และด้านหลัง จึงนัดเจรจา ขอให้เปลี่ยนรถใหม่ เพราะตนเพิ่งส่งค่ารถไปได้เพียง 16 งวดเท่านั้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ยอมรับไม่ได้ เพราะรถพังหนัก ทางศูนย์ได้ปฏิเสธ
ตนจึงขอให้คืนเงินดาวน์ และค่างวดรถ จะได้ไปซื้อรถคันใหม่ ถ้าจะซื้อกับศูนย์ก็ยอม อย่างไรก็ดีอีกฝ่ายไม่ยอม จะซ่อมรถให้ใหม่ พร้อมมอบเงิน 3 หมื่นบาท แต่ตอนไม่ยอม จึงยื่นคำขาดว่า จะซ่อมคันนี้ให้ก็ยอม แต่ขอค่าเสื่อม ค่าต่างๆ เป็นเงิน 5 แสนบาท เราก็เชื่อว่าเขาจะต่อรอง
อย่างไรก็ดีทางศูนย์บอกไม่สามารถทำตามที่ร้องขอได้ จึงไปแจ้งตำรวจลงบันทึกประจำวัน และร้องเรียนผ่านสื่อ เพราะไม่ได้รับความยุติธรรม เราเรียกร้องอะไร เขาก็ปฏิเสธ และยื่นข้อเสนอที่รับไม่ได้ ไม่อยากเจรจาด้วยอีกแล้ว ถ้าร้องเรียนหน่วยงานไม่ได้ ก็คงต้องไปฟ้องศาลแล้ว