จากกรณีที่ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความเชิงตำหนิ เหตุการณ์รถกู้ภัยที่กำลังไปรับคนไข้ ลงในเพจ ชุมทางทุ่งสง ระบุว่า… ฝากถึงรถมูลนิธิสยามรวมใจ นะคะ เวลาขอทาง ให้เวลารถคันหน้าดูรถทางซ้ายมือบ้างนะคะ ไม่ใช่คิดแต่จะจ่ออย่างเดียว คิดถึงความปลอดภัยของคนอื่นเค้าบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ความสะดวกของตัวเอง ถึงน้องจะรีบแค่ไหน ด่วนแค่ไหน คิดถึงความปลอดภัยคนอื่นด้วยนะคะ
ซึ่งภายหลังจากข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปทำให้ชาวเน็ตต่างก็สงสัยว่า ทำไมจู่ ๆ หญิงสาวรายนี้ถึงได้ตำหนิการขับรถกู้ภัยดังกล่าว ทำให้งงกันทั้งประเทศว่าใครควรจะต้องมีจิตสำนึก ที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตจากการขับรถขวางของเก๋งเขียว วันที่ 27 ก.ค. 2565 ย้อนกลับไปยังมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้พุดคุยกับ นายทรงเกียรติ ศรีขวัญช่วย คนขับ และนายพนาสันฑ์ บุญชู คนปั๊มหัวใจ เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ถูกรถของผู้ช่วยพยาบาลขับขวาง
นายทรงเกียรติ ศรีขวัญช่วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เป็นคนขับ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 15.20 น. ทางกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยขอความช่วยเหลือในพื้นที่หมู่ 8 ต.เขาโร อ.ทุ่งสง โดยโทรศัพท์สอบถามญาติได้ข้อมูลว่า ผู้ป่วยเป็นชายหมดสติไปกว่า 10 นาทีแล้ว ทันทีที่ทราบอาการ ตนและเพื่อนกู้ภัยก็รีบขับรถออกจากศูนย์ไปที่เกิดเหตุ เป็นระยะทางกว่า 15 กิโลเมตร
แต่ในระหว่างทาง ก็มีรถเก๋งของคู่กรณี ซึ่งทราบภายหลังว่ามีอาชีพเป็นผู้ช่วยพยาบาล ขับรถแช่ขวาอยู่ ตนที่กำลังเร่งรีบก็เปิดสัญญาณไฟและสัญญาณเสียง แต่รถคู่กรณีก็ไม่ยอมเบี่ยงหลบทั้งที่ถนนโล่ง ตนจึงตัดสินใจเบี่ยงรถไปทางซ้าย และแซงขึ้นไปแทน โดยใช้เวลาประมาณ 7-8 นาที ก็ไปถึงบ้านของผู้ป่วย
เมื่อไปถึงก็พบว่าผู้ป่วยไม่มีสติแล้ว จึงรับผู้ป่วยขึ้นรถกู้ภัย และให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ไปด้วยกันปั๊มหัวใจผู้ป่วยบนรถพยาบาล ตลอดเส้นทาง ตั้งแต่บ้านที่เกิดเหตุจนถึงโรงพยาบาลเลย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเรื่องราวจะเป็นดราม่า แต่ก็ทราบว่าญาติของผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้ติดใจผู้ช่วยพยาบาลรายนี้แต่อย่างใด สุดท้ายตนก็อยากฝากไปถึงสังคมว่าทุกนาทีมีค่าสำหรับผู้ป่วยและคนเจ็บ ถ้าเจอรถกู้ภัยก็ขอให้หลบลงเลนซ้าย เพื่อให้กู้ภัยเร่งพาผู้ป่วยไปถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
นายพนาสันฑ์ บุญชู กล่าวต่อว่า ในช่วงที่รับผู้ป่วยขึ้นรถมาแล้ว ตนก็ปั๊มหัว ใจให้ผู้ป่วยตั้งแต่บ้านที่เกิดเหตุ จนถึงโรงพยาบาล เป็นเวลา 7-8 นาที ซึ่งผู้ป่วยก็ไม่รู้สึกตัวแล้ว หลังจากไปถึงโรงพยาบาลประมาณ 15 นาที แพทย์ก็ออกมาแจ้งว่าผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว นางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลทุ่งสง คนขับรถยนต์เก๋งขวางรถกู้ภัย เปิดเผยว่า…
เมื่อวานนี้ตนขับรถออกจากบ้านมาบนถนนทุ่งสง-ตรัง ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนทุ่งสงสุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าไปสี่แยกเกษตร ซึ่งตนเข้าเลนกลางเพื่อขับผ่านสี่แยก ตรงไปโรงพยาบาล ช่องจราจรบังคับให้ตนต้องขับรถเข้าเลนขวา ซึ่งช่องเลนซ้ายมีรถจอดซ้อนคันเป็นทางยาว เนื่องจากเป็นวันที่มีตลาดนัด ระหว่างนั้นมีเสียงของรถกู้ภัยเปิดไซเลนขับตามหลังมา ตอนแรกตนพยายามจะเบี่ยงเข้าเลนซ้าย หลบให้รถกู้ภัยแล้ว
แต่ช่องเลนซ้ายมีรถจอดซ้อนคัน จึงไม่สามารถเบี่ยงซ้ายได้ ประกอบกับรถกู้ภัยขับลักษณะจ่อท้ายแบบเร่งเครื่องสลับหยุด ตนจึงไม่กล้าที่จะขับรถเบี่ยงออกซ้าย เพราะรถของตนคันเล็ก ทัศนวิสัยไม่ดี มองกระจกหลังไม่เห็น เนื่องจากมีรถกู้ภัยจ่อท้ายอยู่ ยอมรับว่าที่รถกู้ภัยขับจ่อท้ายอย่างกระชั้นชิด ทำให้ความสามารถสติในการขับรถของตนลดน้อยลง ประกอบกับความกลัวว่าจะถูกรถกู้ภัยชนท้าย
เนื่องจากรถกู้ภัยขับรถในลักษณะจ่อท้ายแบบเร่งเครื่องสลับกับหยุดจึงไม่กล้าขับเบี่ยงออกซ้าย ส่วนคลิปหน้ารถที่รถกู้ภัยนำมาโพสต์ เป็นเพียงแค่ช่วงท้าย ซึ่งเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่รถกู้ภัยขับจ่อท้ายนั้น บริเวณช่องเลนซ้ายมีรถจอดซ้อนคันตลอดทางตนจึงไม่สามารถขับรถเบี่ยงซ้ายหลบให้กู้ภัยได้ จึงวอนสังคมให้ฟังความทั้งสองข้าง หากไม่อยู่ในเหตุการณ์ ก็ไม่ควรจะวิพากวิจารณ์ให้ผู้อื่นเสียหาย ล่าสุด นายธนเดช ทองคำชุมนายธนเดช ได้เดินทางมาที่ สภ.ทุ่งสง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ช่วยพยาบาลคู่กรณี ในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และหมิ่นประมาท
ที่มา: ทุบโต๊ะข่าว, อัมรินทร์ทีวี 34