นักร้องชื่อดังยาใจคนจน ไมค์ ภิรมย์พร เปิดบ้านที่กรุงเทพฯ และบริษัทขายน้ำปลาร้าพร้อมทั้งเผยชีวิตติดดินเป็นเกษตรกรที่อุดรฯ เจ้าตัวเผยซื้อที่อุดรฯ 20 กว่าปีที่แล้ว เริ่มซื้อ 20 ไร่ มีตังค์ก็ซื้อเพิ่ม ตอนนี้มีประมาณ 400-500 ไร่ ไม่ร้องเพลงแล้วเป็นเกษตรกรอย่างเดียว ไมค์ กล่าวว่า จริงๆ พูดตรงๆว่าจะรีไทร์ เกษียณเลย นักดนตรีที่ร่วมงานกันตั้งแต่โควิดทุกคนไม่มีงาน ขออีกสักฤดูกาลให้เขาได้ตั้งตัว เพิ่งคุยหัวหน้าวงก็ได้ให้พวกเรามีโอกาสตั้งตัว
ย้อนชีวิตกว่าจะมีวันนี้ ลำบากพ่อแม่ชาวไร่ชาวนา เลยเข้ากรุงเทพฯ อยากเป็นนักร้อง ครั้งแรกมาอาศัยเพื่อนอยู่สลัมริมคลองแสนแสบ หมอนหนุนหัวก็ไม่มี เก็บเบาะรถที่เขาทิ้งมาพันผ้าขาวม้าเป็นหมอนหนุน มาทำก่อสร้าง เป็นยาม รปภ. ผับดัง เป็นเด็กเสิร์ฟ ได้ร้องเพลงลูกทุ่งให้แขกฟัง ได้ไปขนเครื่องดนตรีวงที่เล่นให้ ใหม่ เจริญปุระ ได้ไปฝากโปรดิวเซอร์แกรมมี่ ส่งเดโม สุดท้ายได้ไปรอนักร้องหญิงสกินเทสต์ นักร้องหญิงแต่งตัวยังไม่เสร็จ เลยไปร้องคั่นเวลา อีก 2 อาทิตย์ ผู้ใหญ่ขอดูตัวได้เป็นนักร้อง
กว่าจะได้เป็นนักร้อง ทำให้วันนี้ก็ยังอยู่เหมือนเดิม ยังอยู่อุดร ไมค์ กล่าวว่า ทำสวนทำอะไรไป เป็นวิถีที่ผูกพัน
ถามถึงภรรยาไมค์ไม่เคยเห็นเลย ไมค์ กล่าวว่า เขาไม่เคยออกสื่อเลย เขาไม่อยากออกสื่อเขาอาย
ถามว่าลูกสาวสวย3คนเลยอยากรู้ได้แม่ ไมค์ กล่าวติดตลกว่า ได้พ่อ ได้พ่อ โดย มิ้ว ลูกสาวคนเล็กมาร่วมพูดคุยด้วย ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ที่แคนาดา อีก 2-3 ปีถึงจะจบ พ่อไมค์บอกว่า ลูกสาวคนเล็กมีแววเรื่องร้องเพลงเหมือนพ่อ
ถามว่าตอนจะเซ็นสัญญาออกอัลบั้มเรามีครอบครัวมีภรรยามีลูกต้องเหมือนนักร้องสมัยก่อนไหมต้องห้ามคนรู้ ไมค์ ยอมรับว่า ก็ต้องปิด ไม่มีใครรู้หรอก ชีวิตต้องต่อสู้ดิ้นรน ก็ต้องทำ ก็ต้องปิด เขาก็เข้าใจ โอ๋ ภัคจีรา พิธีกร ถึงกับลั่นว่า ถึงว่าภรรยาแอบตั้งแต่ตอนนั้น จนตอนนี้เรายังไม่เห็นเลย (หันไปถามมิ้วลูกสาว : คุณแม่อยู่ไหม ลูกสาวตอบว่า อยู่ค่ะแม่อยู่แถวนี้แหละ) อาร์ต พลังธรรม พิธีกร ถึงกับลุกขึ้นมองหาบอกว่า นี่ฉันจะไปเดินหาแล้วนะ ไมค์ กล่าวว่า คุณแม่เขาขี้อายไม่ค่อยออกสื่อ
สอนลูกให้ติดดินลูกสาวต้องไปทำงานแม้พ่อขายน้ำปลาร้าได้เยอะแล้วลูกก็ยังต้องไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟทุกคน ไมค์ กล่าวว่า ต้องฝึก คนนี้ด้วย ต้องบอกให้พี่สาวพาไปทำงาน เด็กเสิร์ฟที่ร้านด้วย พร้อมทั้งพาไปดูบริษัทน้ำปลาร้าที่ตอนนี้มีผลิตภัณฑ์หลายอย่างด้วยว่า ถามว่าคิดไหมรายได้ปลาร้าวันนี้เป็นร้อยๆล้านบาท ไมค์ กล่าวว่า เราไม่ได้คิดขนาดนั้น เราอยากทำเพราะว่าอยากพัฒนาปลาร้า ให้คนได้ยอมรับ สุกสะอาดเข้าสู่กระบวนการ
ไมค์ ยังได้สอนข้อคิด มีเงินให้ใช้ แต่ใช้ในสิ่งที่จำเป็นที่กำลังจะใช้ เงินหามาบางทีเราหาได้มาง่าย ต้องบอกว่าโอกาสมันไม่ได้มาบ่อยๆ นะ ถ้ามีโอกาสเราต้องรักษาไว้ เก็บไว้ให้ดี สิ่งสำคัญคือเรื่องการวางตัว เรื่องของชื่อเสียงสำคัญ เราทำดีมาตลอด พอเราตกม้าตายตอนจบ ทุกอย่างมันพังหมดเลยนะ
เผยประสบการณ์ใช้ชีวิตหรู ไมค์ เล่าว่า เคยมีครั้งหนึ่งไปปารีส ฝรั่งเศสครั้งแรก ผมไปต่อคิวซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม หลุยส์ วิตตอง อยากรู้คนเขาไปซื้อหลุยส์ ความรู้สึกแบบไหน ก็ไปต่อคิวเขา ซื้อมาราคามันก็แพง ตัดสินใจซื้อก็ได้ กระเป๋าสตางค์ใบหนึ่ง ซื้อมาประมาณสองหมื่นกว่าบาท ซื้อมาแล้วใช้ก็โอเค แค่นั้น ถามว่าอยากโชว์อวดใคร กระเป๋าสตางค์กูใช้หลุยส์นะ ก็ไม่เคยทำแบบนี้ ก็เลยแค่นั้น ครั้งนั้นที่ใช้ถือว่าซื้อแพงสุดแล้ว
ชีวิตอย่างอื่น อย่างกินข้าว ตอนนั้นก็มีทั้งสเต๊ก หมดไปหมื่นกว่าบาท ก็ถือว่าแพงนะ ลูกสาวบอกแพงนะพ่อ ดูสิอาหารก็ไม่มีอะไร แค่นั้นลองดู อยากให้รู้ แต่ว่าไปกินอีกไหม ไม่กิน สู้ไปทำกินเองที่บ้านดีกว่า ถามว่ากำลังเห่ออยากมีหลานแล้วปลูกบ้านต้อนรับ ไมค์ กล่าวว่า ปลูกบ้านที่อุดร เริ่มลงเสาเข็ม เราจะไปอยู่ที่นั่นแล้ว เป็นบ้านที่อยู่ถาวรแล้วในบั้นปลายชีวิต 6 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ
ที่มา: ตีท้ายครัว
