อดีตพระเอกชื่อดัง พอล ภัทรพล เผยชีวิตกว่าจะมีพันล้าน เจ๊ง-โดนโกง พร้อมเล่าเส้นทางความรักกับภรรยา ฟอว์น ออกอาการคลั่งรักสุดๆ เผยเรื่องลูกตั้งแต่แรกคบ เปิดชีวิตกว่าจะมาประสบความสำเร็จเป็นพันล้านของพอล ภัทรพล ที่ผันตัวจากการเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงออกมาทำธุรกิจเต็มตัว
รับเจ๊งไปหลายธุรกิจทั้งยังโดนโกง พร้อมเปิดใจถึงเส้นทางความรักกับภรรยาฟอว์น ไปยดา ที่ออกอาการคลั่งรักสุดๆ เผยเคยผ่าตัดเนื้องอกสมองแต่ไม่เคยบอกใคร ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา ดำเนินรายการ
ไม่ออกทีวีนานเท่าไหร่แล้ว?
พอล : ล่าสุดครั้งแต่งงาน น่าจะ 4-5 ปีแล้ว
ตอนนั้นกำลังรุ่งในวงการบันเทิง ทำไมถึงหยุด?
พอล : เราไม่ได้ตั้งใจอยู่วงการบันเทิงตลอดชีวิตอยู่แล้ว เป้าหมายของผมตั้งแต่เด็กคืออยากเกษียณเร็ว วงการบันเทิงก็รายได้ดี แต่เข้าใจว่าถ้าอยากเกษียณเร็วต้องเก็บเงินได้มากกว่านั้น คิดไว้ 2 อย่าง ธุรกิจส่วนตัวกับลงทุน นั่นเป็นที่มาเราเลยทำธุรกิจส่วนตัวคู่กันมาตลอด
พอธุรกิจเริ่มใหญ่ขึ้นมันเริ่มใช้เวลาเรามากขึ้น คงต้องเอาเวลาไปทุ่มธุรกิจเต็มตัวแล้ว เราคิดดีแล้วว่าอันนั้นมันใช้เวลาแต่คุ้ม แต่ก็เสี่ยง กังวลเหมือนกัน แต่ถ้าเราไม่ทุ่มเทเต็มที่มันไม่มีทางจะเกิดได้
กลัวมั้ยว่าออกไปแล้วไม่สำเร็จ?
พอล : สารภาพว่ามีบ้าง มันเป็นตัวขับเคลื่อนเราต้องทำให้สำเร็จกว่าเดิม
ออกจากวงการบันเทิงไป 10 กว่าปีแล้ว จับธุรกิจอะไรบ้าง?
พอล : จริงๆ ก็หลายอย่างครับ เจ๊งก็เยอะ ที่อยู่ได้เป็นธุรกิจอาหารเสริมเกรดยา
หลายพันล้าน?
พอล : ประมาณสักพันครับ
มาทำยูทูบ?
พอล : มันเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่เราอยากทำมานานแล้ว ที่เราอยากเกษียณเร็ว เราอยากทำอะไรบางอย่างให้กับสังคมปัญหาเรื่องความรู้ด้านการเงินของประเทศไทยผมว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก ตอนเด็กเรามีปัญหาด้านการเงินเหมือนกันเลยรู้สึกว่าถ้ามีคนมาบอกเราเหมือนเป็นทางลัดมันจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคน
ธุรกิจอะไรที่เจ๊ง?
พอล : รายการทีวี อีเวนต์ออร์แกไนเซอร์ คลินิก ฟิตเนส สปา อีกเยอะเลย ล้มเหลวมากกว่าสำเร็จ อยากจะบอกว่าคุณไม่ต้องสำเร็จทุกครั้ง บางทีสำเร็จแค่ครั้งเดียวก็ชดเชยความล้มเหลวเป็นสิบเป็นร้อยครั้งของคุณได้ รวมๆสักประมาณ 8 หลัก เราจะเก่งขึ้นตอนเราพลาดตอนเราล้ม
โดนโกงด้วย?
พอล : มีครับ เราไปเป็นหุ้นส่วนเปิดคลินิกกับฟิตเนส เราก็ฟ้องพาร์ตเนอร์ ตอนนั้นเครียดเราไม่เคยขึ้นศาล แต่ถือเป็นข้อดีถือว่าเรียนกฎหมายเพิ่ม ไม่โกรธนะ ขณะที่มีคดีกันเรายังส่งลูกค้าให้เขา เขาเป็นคนเก่ง แต่บางเรื่องเขาทำไม่ถูก
ตอนเด็กๆมีปัญหาเรื่องเงิน?
พอล : ตอนนั้นปี 40 ต้มยำกุ้ง ผมว่าทุกคนลำบาก ที่บ้านมีหนี้จำนวนมาก ทรัพย์สินไปติดที่ธนาคาร เรารู้สึกว่าถ้าเรามีตังค์จะช่วยพ่อแม่ได้ มันเหมือนเป็นปมอย่างหนึ่ง เราโชคดีเริ่มทำงานหาเงินตั้งแต่มหาวิทยาลัย ได้รายได้ก็ผ่อนแบ่งจ่ายหนี้ทำอยู่หลายปี ทุกอย่างประหยัดได้ประหยัดหมด
ตอนนี้ชีวิตนิ่งด้วยความสุขหรือยัง?
พอล : ถือว่าแฮปปี้นะ
แต่งงานมากี่ปีแล้ว?
พอล : ประมาณ 4-5 ปี ไปเจอภรรยาตามงานต่างๆ เป็นเพื่อนของเพื่อน เจอก็รู้สึกน่ารักดีสวยดี เห็นปุ๊บเราไปถามเพื่อนนิสัยยังไง ถ้าไม่ผ่านเราก็ไม่จีบต่อ แต่เพื่อนหลายคนบอกนิสัยดีมาก จากนั้นมาเราทำการบ้านต่อไปส่องเฟซบุ๊กเขาไปไล่ดูหน้าฟีด ดีทุกอย่างเลยยกเว้นอย่างเดียวมีแฟนแล้ว แต่เราคิดว่ามันสมควรแล้ว เพราะเขาเป็นคนนิสัยดีคงไม่มาถึงเรา
ส่องเฟซบุ๊กอยู่นานมาก?
พอล : ส่องเยอะมาก จนบอกตัวเองให้พอเถอะ ส่องต่อไปก็ไม่มีประโยชน์เขามีแฟนแล้ว แอบส่องอยู่ 3-4 ปี
ทำไมไม่ตัดใจ?
พอล : ก็มูฟออนนะ ช่วงแรกส่องเยอะหน่อย เราก็พยายามหยุดดู นานๆกลับไปดูที
ทำไมทักเขาไป?
พอล : เพื่อนบอกว่าเขาโสดแล้วนะ เราก็ส่องต่อ วันไหนเขาถ่ายรูปเป็นหนังสือเกี่ยวกับธรรมะ เราไปเห็น ก็ทักไปหาหนังสือดีมั้ย เขาก็บอกว่าไม่ทราบเหมือนกันยังไม่ได้อ่านเลย ซึ่งเราชอบมากเขาบอกตรงๆ เราใช้ทักษะพิธีกรเก่าถามไปเรื่อยๆ ส่งข้อความไปมาสักพัก ตัดสินใจถามไปทานข้าวกันมั้ย เขาก็หายไปสักพัก เราก็ตาม ก็ได้ไปทานข้าวกัน
คบกันนานขนาดไหน ที่ถามเรื่องลูกกับเขา?
พอล : ค่อนข้างต้นๆเลย พอเราเริ่มออกเดตมีเรื่องให้คุยกัน เพราะเราก็โตแล้วตอนนั้นถ้าเอาไปถามหลังๆคงไม่เวิร์ก ก็ถามต้นๆ เราก็แชร์ไอเดียให้เขาฟังว่าเราไม่อยากมีลูกนะ ฟอว์นคิดยังไง ปรากฏว่าเหมือนกันเลย ถ้าเขาบอกว่าอยากมีเราคงต้องบอกเขาว่าหยุดไว้แค่นี้ เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าเห็นไม่ตรงกันก็คงไม่มีความสุขในการใช้ชีวิต
จัดงานแต่งเล็กๆ?
พอล : มีแขกไป 19 คน นิสัยเหมือนกันเป็นคนชอบงานเล็กๆ เงียบๆ เป็นสิ่งหนึ่งที่คุยกัน เห็นตรงกัน
ไม่ลงทุนงานแต่งแต่ลงทุนเรื่องบ้าน เรือนหอเกินร้อยล้าน?
พอล : มันเป็นความพอใจ ถ้าคนมาถามก็ประมาณนั้นถ้าขายจริงๆ
คลั่งรักสุด?
พอล : ค่อนข้างตัวติดกัน เป็นคนเรียบๆ ง่ายๆ จริงๆ ไม่ไปไหนเราอยู่บ้าน
เคยผ่าเนื้องอกที่สมอง?
พอล : ตอนนั้นอายุประมาณ 25 ไปเจอว่ามี แต่มันเล็กมากมันอยู่ระหว่างคิ้ว เริ่มจากอาการมีภาพซ้อน เริ่มเดินชนประตู จนขับรถเบียดเสาไฟฟ้า เรารู้สึกไม่ปกติ ไปหาหมอเทสต์หลายครั้งก็ไปผ่า ไม่บอกใครเลยที่บ้านก็ไม่บอกจนได้ไปผ่า วันรุ่งขึ้นนักข่าวเต็มโรงพยาบาล ตอนนี้หายหมดแล้ว
ที่มา: คุยแซ่บShow