ได้ฤกษ์งามยามดีเปิดร้านใหม่ชื่อ Sail to the Moon by Nakorn at Asiatique ที่เอเชียทีค งานนี้ เปิ้ล นาคร และ จูน กษมา ศิลาชัย ก็ได้เปิดใจถึงการลงทุนทำร้านใหม่ใช้งบสูงถึงหลัก 10 ล้านบาท เลยทีเดียว ตอนนี้ต้องบอกก่อนว่า ธุรกิจอาหารสมัย 10 กว่าปีก่อน เราก็ทำเล่นๆ เราชอบทำอาหาร มีร้านของเราก็ดีนะ
แต่พอเวลาผ่านไป โควิด-19 นี่แหละที่มันมาผลักดันให้เราอยากทำเป็นอาชีพจริงๆ แล้วมันกลายเป็นอีกธุรกิจหลักของครอบครัว พอเรามาทำแล้วรู้สึกว่ามันสามารถโตได้ เราก็เลยวางแผนไว้เลยว่าในอนาคตธุรกิจอาหารของเราจะต้องเป็นยังไง เมื่อสอบถามถึงประเด็นที่อดีตเพื่อนสนิทอย่าง เสนาหอย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงตนเองว่ายังคิดถึง และเป็นห่วง ติดตามผลงานอยู่ตลอด
ทั้งนี้ เปิ้ลก็กล่าวว่า… ดีๆ ดีใจ ไม่ได้เจอกันนานหลายปีมาก 10 กว่าปีแล้วนะ เขาพูดถึง ก็เหมือนต่างคนต่างติดตามผลงานกัน และกันมากกว่า เขาก็อาจจะเห็นเราบ้างทางออนไลน์ เราก็เห็นเขาบ้างในทีวี อย่างลูกๆ 4 ออ ก็เห็น พี่หอยตลกนะ เราก็บอกนี่เพื่อนป๊านะ เราก็เล่าให้ฟัง
กับความรู้สึกที่ได้ยินแบบนั้น เปิ้ล นาคร ก็ว่า ไม่ได้ฟังหมด แต่เห็นใน TikTok หรือทีเซอร์สั้นๆ ซึ่งเราก็ดีใจแหละ น้องก็ยังคิดถึงเราอยู่ เราก็ยังคิดถึงเขาอยู่เหมือนกัน ส่วนโอกาสร่วมงานกันนั้นคงยาก เพราะตอนนี้ตนหันไปทำธุรกิจเป็นหลักมากกว่า น่าจะยาก เพราะว่าตอนนี้ชีวิตเรามันค่อนข้างจะเปลี่ยนไปเยอะ บอกแล้วว่าฉันไม่เหมือนเดิม
ชีวิตเรามันทำธุรกิจเยอะ เพราะฉะนั้นถ้าเรากลับไปร่วมกันอีกทีภาพจำมันต้องตลกอะ เปิ้ล วิลลี่ หอย มันต้องตลก แล้วเดี๋ยวนี้เราต้องประชุมทุกวัน เมียใช้ คือเรามีความสุขกับการทำธุรกิจด้วย การทำทีวีของเราก็ยังรักมันอยู่ เราก็จะทำในสิ่งที่มันเป็นแบบเดิมไม่ได้ ที่ต้องตลก ต้องแต่งตัว เอาแป้งปะหน้ากัน เราทำให้ลูกดูได้นะ แต่ไปทำอย่างนั้นมันเป็นเรื่องในอดีตแล้ว ทุกวันนี้เราอยู่กับปัจจุบันอย่างเดียวแล้ว
วันนี้ไม่มีอะไรคาใจติดใจกันแล้ว เชื่อว่าทุกคนยังคิดถึงกัน ก็ยังคิดว่าวันไหนว่างๆ เชิญเขามากินก๋วยเตี๋ยวเรือที่ร้าน มาได้เลยวิลลี่ หอย ถ้ามีเวลาก็คงได้เห็นแหละ แต่ให้ไปทำแบบเดิม ไปทำรายการ ไปแกล้งคนแบบสาระแนยุคนี้ทำไม่ได้แน่นอน ทั้งบูลลี่ ทั้งดราม่า ยับแน่ๆ อะ ก็เลยไม่เอาดีกว่า