เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2565 จากสถานการณ์ราคาพลังงานน้ำมัน รวมถึงวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลทำให้สินค้าหลายประเภท โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ปรับราคาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ผู้สื่อข่าว จ.มหาสารคาม ได้ลงพื้นที่สอบถามผู้ค้าถึงผลกระทบดังกล่าว โดยนางเครือ แม่ค้าจำหน่ายอีสาน เปิดเผยว่า…
ตนประกอบอาชีพขายอาหารอีสาน ทั้งส้มตำ ไก่ย่าง หมูย่าง ปลาดุกย่าง และอีกหลายอย่าง ทุกวันจะขับขี่รถกรยานยนต์พ่วงข้างออกจำหน่ายตามจุดต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม ช่วงเช้าจะจอดขายริมถนนด้านหน้า รพ.มหาสารคาม ช่วงสายหน่อยจะมาจอดขายที่ด้านข้างห้างเสริมไทย
นางเครือ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้หลังหักต้นทุนออกก็พอมีกำไรเหลือบ้าง แต่ขณะนี้ทั้งไก่สด โครงไก่ และเนื้อหมู ที่ตนนำมาประกอบอาหารจำหน่าย มีการปรับราคาขึ้นสูงมาก เช่น โครงไก่จากกิโลกรัมละ 25-30 บาท ปรับราคาขึ้นเป็น 40-50 บาท ชิ้นส่วนไก่ ปีก น่อง ขา สะโพก เดิมกิโลกรัมละ 65-70 บาท ปรับราคาขึ้นเป็น 98 บาท หมูสามชั้นกิโลกรัมละ 160 บาท ปรับราคาขึ้นเป็น 200 บาท
นางเครือ กล่าวอีกว่า หากจะปรับราคาขายขึ้นก็เห็นใจลูกค้า ส่วนใหญ่เป็นขาประจำ ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงจะอยู่รอดได้ จึงใช้วิธีเลือกวัตถุดิบชิ้นเล็กลง และขายราคาเท่าเดิม เช่น ไก่ย่างไม้ละ 30 บาท ปลาดุกย่างตัวละ 20 บาท แต่ยังถูกลูกค้าตำหนิว่าชิ้นเล็กเกินไป หลายรายเลือกดูแล้วก็ไม่ซื้อเพราะไม่พอใจ
ช่วงนี้ขายของยากมากเพราะลูกค้าหด ขอวิงวอนภาครัฐช่วยควบคุมราคาหมูและไก่ด้วย อย่าพูดแต่ปาก ในกลุ่มแม่ค้าด้วยกันมีการพูดคุยว่าหากสถานการณ์ราคาสินค้ายังสูงอยู่อย่างนี้ โดยภาครัฐไม่ สามารถแก้ไขได้ เลือกตั้งสมัยหน้าต้องคิดทบทวนแล้วว่าจะเลือกพรรคไหน นางเครือ กล่าว