จากกรณีที่ทางเฟซบุ๊กเพจ Plai Navaracha หมอปลาย พรายกระซิบ เผยภาพล่าสุด หมอปลาย นุ่งห่มเหลืองบวชเป็นสามเณรี หลังเดินทางไปศรีลังกา พร้อมทั้งเผยว่า สามเณรี สุทัสสนา คือนามใหม่ของหมอปลาย พรายกระซิบ เหลือเพียงอีกหนึ่งลำดับ คือการสอบเพื่อเป็นภิกษุณี มาร่วมให้กำลังใจ สามเณรี สุทัสสนา ให้ทำสำเร็จดังที่ปรารถนาไปด้วยกันนะคะ #หมอปลายพรายกระซิบ #หมอปลาย #ลูกศิษย์ท่านยม #สามเณรี
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 มิถุนายน 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในพิธีบวชของหมอปลาย มี นายณกรณ์ กรณ์หิรัญ หรือ เอก นักธุรกิจชื่อดัง ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่สนิทกับ สามเณรี ได้เดินทางไปร่วมพิธีบวชในครั้งนี้ด้วย ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อเข้าไปเพื่อสอบถามถึงบรรยากาศ ให้เล่าถึงเหตุการณ์
โดย นายณกรณ์ หรือ เอก นักธุรกิจชื่อดังได้เล่าถึงเหตุการณ์ในวันที่ 14 มิ.ย. 65 ว่า ตนซึ่งอยู่ในพิธีด้วยรู้สึกปลื้มปิติอย่างบอกไม่ถูก น้ำตาคลอ เหมือนอิ่มบุญ ตอนนี้หมอปลายบวชเป็นสามเณรี สำเร็จแล้ว และความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นก่อนการบวชครั้งนี้ก็คือสามเณรีสามารถท่องบทสวดได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งๆที่ไม่ใช่ภาษาบาลีแบบที่คนไทยคุ้นเคย นั่นหมายความสามเณรีปลายต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด แต่สามเณรีปลายสามารถทำได้ในเวลาอันรวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ สร้างความประหลาดใจกับพระและภิกษุณีชั้นผู้ใหญ่ที่นั่นเป็นอันมาก
นายณกรณ์ หรือ เอกเล่าว่า จริงๆแล้วการบวชครั้งนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เพราะการติดต่อเพื่อบวชภิกษุณีในศรีลังกานั้น จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้บวชอยู่ในสมณะ สามเณรีเป็นเวลา 1 ปี ก่อนจะเข้าสอบทั้งบทสวดและการปฏิบัติ และยังต้องได้รับเซ็นรับรองจากพระและภิกษุณีชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายละ 20 รูปเสียก่อน จึงจะสามารถเข้าสอบเป็นภิกษุณีได้ แต่หมอปลายยังยืนยันที่จะเดินทางไปศรีลังกา ทั้งๆที่ยังไม่เห็นโอกาสในความเป็นไปได้เลย และหมอปลายก็ทำในสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ไห้เกิดขึ้น หมอปลายได้อธิษฐานต่อท่านยมว่า ถ้าอยากให้หมอปลายบวชก็ต้องดลบันดาลให้สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น
ในการเดินทางครั้งนี้หมอปลายได้รับการแนะนำให้เข้าพบกับพระผู้ใหญ่ระดับที่สามารถอนุมัติการบวชได้โดยบังเอิญ เมื่อพูดคุยได้รับทราบถึงความตั้งใจ หลวงพ่อจึงอนุมัติให้การบวชสามเณรีของหมอปลายเกิดขึ้น และยอมให้เข้าสอบร่วมกับคนที่เตรียมตัวมา 1 ปี ซึ่งนั้นหมายความว่า หมอปลายต้องเตรียมตัวสอบเทียบเท่าคนที่อ่านหนังสือมา 1 ปี โดยใช้เวลาเพียง 2 เดือนนั่นเอง
ความเป็นอยู่ที่วัดสุสิลาราสะวิหาร ประเทศศรีลังกา ยากลำบากมาก เพราะเปรียบเสมือนชนบทของศรีลังกา บางที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ด้วยซ้ำ นายเอกซึ่งถึงจะเช่ารถไปใช้ แต่ถ้าจะเติมน้ำมันต้องขับมาเติมในเมือง ซึ่งต้องไปเข้าคิวตั้งแต่ 1 ทุ่ม และ จะได้เติมราวๆเที่ยงคืน ขนาดตนเป็นคนธรรมดา ยังลำบากขนาดนี้ หมอปลายซึ่งเตรียมบวชอยู่นั้นจะลำบากขนาดไหน ทั้งการสื่อสาร อาหารการกิน ความสะดวกสบาย แต่ด้วยความตั้งใจอันแรงกล้า วันนี้หมอปลายทำสำเร็จขั้นแรกด้วยการบวชเป็นสามเณรีแล้ว และมีนามใหม่ว่า สุทัสสนา
ในอีก 2 สัปดาห์ประมาณวันที่ 6 ก.ค. 65 สามเณรีจะเข้าสอบเพื่อเป็นภิกษุณี ซึ่งหลังจากเป็นภิกษุณีแล้ว จะต้องถือศีลถืง 311 ข้อ มากกว่าพระภิกษุ ซึ่งถือศีลเพียง 227 ข้อ วินัยของภิกษุณีที่มีมากกว่าพระภิกษุ เพราะผู้หญิงมีข้อปลีกย่อยในการดำรงชีวิตมากกว่าผู้ชาย เช่น ต้องมีผ้ารัดถัน ผ้ารัดอก ซึ่งผู้ชายไม่จำเป็นต้องมี เป็นต้น โดยสามเณรี สุทัสสนา ได้แจงไว้ก่อนจะมาบวชว่า หากบวชได้เป็น ภิกษุณี ก็จะปฏิบัติธรรมอยู่ที่ ประเทศศรีลังกา เป็นระยะเวลา 1 ปี ครบกำหนด ก็จะกลับประเทศไทย กลับเป็นฆราวาสต่อไป
ที่มา: Plai Navaracha หมอปลาย พรายกระซิบ