เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2565 ได้รับรายงานว่า โด หง็อก ถ่วน หรือ Seven Ball หนุ่มเวียดนามวัย 34 ปี ผู้หลงใหลในทองคำตั้งแต่จำความได้ เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาจึงสานฝันตัวเองด้วยการซื้อทองมาใส่ และเดินอวดสายตาผู้คนไปมา และการได้เป็นจุดสนใจนี้ ยิ่งทำให้เขารู้สึกดี ใส่ทองจัดเต็มมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาได้เปิดร้านอาหารและร้านขนมในโฮจิมินห์ เขาจึงตัดสินใจสวมทองมูลค่ามหาศาลเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าให้เข้ามานั่งทานที่ร้าน จนทำให้เขากลายเป็นที่พูดถึงบนโลกโซเชียลมากมาย
เมื่อก่อนตอนที่ผมยังไม่ดังบนโซเชียล ผมก็ใส่ทองเยอะแบบนี้แหละ ทุกครั้งที่ผมหยุดรอสัญญาณไฟ ก็มีหลายคนชี้มาที่ผมพร้อมกับชื่นชม พอได้เปิดร้านหม้อไฟ และร้านขนม ผมก็ตัดสินใจประโคมทองเพิ่มขึ้นอีกเพื่อดึงดูดความสนใจ และเพื่อให้ลูกค้าที่มาทานอาหารที่ร้านรู้สึกโชคดี
ปัจจุบันเขาได้รับฉายาว่ามนุษย์ทองคำ เพราะสวมแหวน 10 วง กำไลข้อมือ 30 วง สร้อยคอ 12 เส้น ยังไม่นับต่างหูทอง กำไลข้อเท้า และแหวนที่นิ้วเท้าอีกจำนวนมาก รวม ๆ แล้วเขาสวมทองกว่า 5 กิโลกรัมทุกวัน โดยจะถอดออกก็ต่อเมื่ออาบน้ำ สระผม หรือนอนเท่านั้น
จากการเป็นที่รู้จัก มักมีคนชื่นชอบและไม่ชอบปะปนกันไป บางคนก็กล่าวหาว่าเขาสวมทองปลอม ซึ่งเขาก็ตอบกลับไปอย่างท้าทายว่าให้มาพิสูจน์ ถ้าเป็นทองปลอมเขาจะเลิกสวมทันที แต่ถ้าหากเป็นทองของจริง ผู้คนที่กล่าวหาต้องจ่ายเงินให้เขา 5 ล้านดอง หรือราวๆ 7,500 บาท
ที่เมืองนี้ ทุกคนรับรู้ว่าผมใส่ทองอย่างนี้มานานแล้ว ใครที่สงสัยสามารถไปร้านทองกับผมเพื่อพิสูจน์ได้เลย ถ้าผลออกมาว่าเป็นทองปลอม ผมจะเลิกใส่ แต่ถ้าเป็นทองแท้ ต้องให้เงินผม มีหลายคนสงสัยว่าสวมทองขนาดนี้เคยมีอันตรายหรือไม่ เขาเปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2008 ที่เขาสวมทองจำนวนมากบนร่างกาย เขาเคยตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงที่จะถูกปล้นเพียง 2 ครั้งเท่านั้น
ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2014 เขาสังเกตเห็นว่ามีกลุ่มคนเดินตาม เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหลบในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งกลุ่มคนน่าสงสัยวนเวียนอยู่หน้าร้านอยู่สักพักก็ยอมเดินจากไป ส่วนครั้งที่สองเกิดขึ้นขณะที่เขากำลังขับรถ มีคนขับรถคันอื่นบอกให้เขาจอดรถเพื่อตรวจสอบเอกสาร ซึ่งเขายอมหยุดเพราะคิดว่าเป็นตำรวจ
แต่เมื่อตระหนักได้ว่าเป็นกลลวง เขาก็รีบวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือ หนึ่งในกลุ่มโจรสามารถคว้าสร้อยทองของเขาได้ แต่เขายื้อไว้ สุดท้ายจึงขโมยไปได้แค่จี้ ทั้งนี้ แม้จะเคยเกิดเรื่องเลวร้ายมาก่อน แต่เขาจะจ้างคนมาคุ้มกันก็ต่อเมื่อเดินทางออกนอกโฮจิมินห์เท่านั้น โดยให้เหตุผลว่าทุกคนในเมืองต่างรู้จักและเข้าใจสไตล์ของเขาดี