เปิดใจเจ้าของฟาร์ม เตรียมเอาเนื้อกับหนังจระเข้ไปทำประโยชน์ เล่าทำใจยากเหมือนกัน

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “เอ็กซ์ วัวหันอินเตอร์” ฟาร์มจระเข้ จ.ลำพูน โพสต์ข้อความและรูปภาพกล่าวว่า “วันนี้ตัดสินใจเอาจระเข้พ่อแม่พันธุ์ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ต้น ประมาณ 17 ปี ออกจากบ่อทั้งหมด หนึ่งในปัจจัยคือ เรื่องฟ้าฝนที่ปีนี้ดูจะรุนแรงเกิน ผมต้องรีบตัดสินใจแบบเร่งด่วนที่สุด ป้องกัน ดีกว่ามาแก้ไขทีหลัง” ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด นายณัฐพากย์ คำกาศ เจ้าของฟาร์มวัวหันอินเตอร์ เปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ว่า ตนทำฟาร์มจระเข้มา 17 ปี เหตุการณ์มันผ่านมาได้ทุกปี ไม่เคยมีอะไรเป็นเหตุฉุกเฉินสักอย่าง แต่มาปีนี้ที่ จ.ลำพูน ฝนตกอย่างหนัก และภัยธรรมชาติ ตนต้านไม่อยู่ ปีนี้ถือว่ารุนแรงมาก

ฝนตกวันแรกไม่เป็นอะไร พอวันที่ 2 กำแพงที่อยู่ในน้ำถล่มลงมา สติตนเริ่มหลุด ต้องหาวิธีหาทางที่จะหยุดมัน วางแผนไว้ 3 แผน คือ 1.กั้นพื้นที่ภายในบ่อ แยกจระเข้มาอีกฝั่งหนึ่ง และซ่อมกำแพงโดยด่วน แต่ฝนก็ตกมาอย่างหนักเลยเอาไม่อยู่ ที่สำคัญคือมีจระเข้บางตัวมุดข้ามไปฝั่งที่ชำรุดได้ แผนนี้ไม่สำเร็จ

แผนที่ 2. เคลื่อนย้ายจระเข้ไปฝากไว้ที่บ่ออื่นก่อน แต่มันเป็นเหตุที่ฉุกเฉินมาก ไม่มีบ่อไหนที่ใกล้เลย จึงต้องจำเป็นต้องใช้แผนที่ 3. คือการเคลื่อนย้ายจระเข้แบบตาย ด้วยการชอร์ตไฟฟ้า แล้วเชือด มันเป็นการเซฟทั้งฟาร์ม เซฟทั้งคนอื่นด้วย ซึ่งจระเข้ที่ต้องฆ่ามีทั้งหมด 125 ตัว แต่ในบ่อมีจระเข้ที่เป็นพ่อแม่พันธุ์ทั้งหมด 90 ตัว ตนกลัวว่าจระเข้จะข้ามไปในจุดที่กำลังแพงพังลงมา มันเหลือระยะที่ไม่มากเท่าไรแล้ว

ก่อนที่จระเข้จะหลุดออกไป จึงเป็นการตัดสินใจในสภาวะเร่งด่วน แต่ก็ปรึกษากันในครอบครัวแล้ว ทุกคนลงมติเห็นด้วยที่ต้องทำแบบนี้ เอาเรื่องของความปลอดภัยของคนไว้ก่อน ซึ่งปกติตนจะไม่ค่อยฟังเสียงใครเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้มันวิกฤตแล้วจริงๆ เป็นการตัดสินใจที่ยากมาก ต้องยอมฆ่าจระเข้ที่เลี้ยงมา 17 ปี ตนได้ลูกและไข่จากมันมาทุกปี ต้องยอม มันไม่เหลือแล้ว ต้องมาเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด

ส่วนความรู้สึกตอนนี้ตนก็รู้สึกหวิวๆ เมื่อวานยังเห็นจระเข้อยู่เลย แต่พอมาวันนี้มันกลายเป็นบ่อที่ว่างเปล่า ตนรู้สึกผูกพันกับจระเข้พวกนี้อยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาก็เคยลงไปถ่ายรูป เคยลงไปทำคอนเทนต์กับมัน ส่วนในอนาคตก็จะมีลูกๆ ของจระเข้เหล่านี้ขึ้นมาแทนที่ต่อไป ส่วนตัวที่ต้องฆ่าไปจะเป็นพวกตัวใหญ่ที่ตนไม่อาจจะควบคุมได้ เมื่อมันหลุดออกไป

ส่วนจระเข้ที่ต้องฆ่าทุกตัว ตนไม่ปล่อยให้สูญเปล่า ตนใช้ประโยชน์คือการแยกขายหนัง ส่วนเนื้อก็นำมาขายเป็นจระเข้หัน ซึ่งเป็นธุระกิจดั้งเดิมของฟาร์มตนอยู่แล้ว ก็จะมีทั้งวัวหัน หมูหัน แล้วก็มาเป็นจระเข้ เมนูจระเข้หันนี้เพิ่งจะได้รับความนิยมในช่วงหลังๆ นี้

ช่วง 10 ปีแรกยังไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ เพราะมีการต่อต้านการกินจระเข้กันอยู่ การกินเนื้อจระเข้ยังไม่เป็นที่ยอมรับ แต่ปัจจุบันการกินเนื้อจระเข้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น ทางฟาร์มจึงทำจระเข้หัน ซึ่งตนทำเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *