กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้เริ่มโอนเงิน 10,000 บาท ในรูปแบบเงินสด ให้กับกลุ่มเปราะบางแล้วตั้งแต่เวลา 00.00 น.ที่ผ่านมา ประกอบด้วยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน และผู้พิการ
วันที่ 25 ก.ย.2567 ที่ จ.ฉะเชิงเทรา บ้านหลังหนึ่ง ม.8 ต.บางพระ อ.เมืองฉะเชิงเทรา พบกับ นางพเยาว์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายนพพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ผู้พิการทางสมอง
นางพเยาว์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว แต่ลูกชายได้รับสิทธิ เนื่องจากขึ้นทะเบียนคนพิการ ได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 300 บาทมาก่อนหน้านี้ วันนี้พอตื่นขึ้นมาก็มาเช็กเงินที่รัฐบาลประกาศจะแจกในวันแรกคือวันนี้
นางพเยาว์ กล่าวต่อว่า ตนและครอบครัวรู้สึกดีใจมาก ที่ได้รับเงินก้อนนี้ จะได้นำเงินไปซื้อข้าวสาร อุปกรณ์ทำครัว หมู ผักมาเก็บไว้ และของต่าง ๆ ที่จำเป็น ในการยังชีพในแต่ละวัน ซึ่งเงินก้อนนี้คงใช้ได้อีกสักระยะ เพราะตอนนี้ตนถูกลดเงินเดือน ทำให้ต้องใช้เงินภายในครอบครัวอย่างประหยัด
นางพเยาว์ กล่าวอีกว่า ถ้าเงินก้อนนี้เอาไปใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟได้ก็จะนำไปจ่าย แต่ถ้าไม่ได้ก็จะเก็บไว้ซื้อเครื่องครัว ข้าวสารและจะไม่นำเงินไปซื้ออย่างอื่นเลย เพราะสิ่งของพวกนี้จำเป็นที่สุด ที่ต้องใช้กินในแต่ละวัน ข้าวสารถังละ 500 บาท หัวหอมโลละ 100 บาท ซึ่งเงินก้อนนี้ไม่เยอะแต่ก็สามารถเยียวยาประชาชนได้ในระยะหนึ่ง ก็ขอขอบคุณรัฐบาลและหวังว่าทุกคนจะได้เหมือนกัน
นางพเยาว์ กล่าวด้วยว่า เงินก้อนนี้ที่ลูกชายที่พิการได้ ปกติลูกชายได้เดือนละ 300 บาท ก็จะเอาเงินนี้ไปซื้อข้าวสาร 1 ถังในราคา 500 บาท ซึ่งตนต้องออกเงินสดอีก 200 บาท ก็ถือว่าช่วยได้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่พอได้อีก 10,000 บาทนี้ คงจะช่วยครอบครัวของตนได้อีกมาก และ 10,000 บาทนี้ จะใช้อย่างประหยัดและจำเป็นที่สุด
ขณะที่บรรยากาศประชาชนผู้มีสิทธิรับเงิน 10,000 บาทของรัฐบาลในวันแรก พบว่าตู้ ATM ต่าง ๆ รอบเมืองแปดริ้ว ที่ยังคงเงียบเหงาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีประชาชนผู้มีสิทธิออกมากดเงินสดที่ตู้ค่อนข้างบางตา
สาเหตุส่วนหนึ่งคาดว่า ประชาชนผู้มีสิทธิกลุ่มนี้ อาจจะมีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนในการใช้จ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร จึงไม่รีบร้อนที่จะต้องออกมากดเงินสดนำไปใช้