จากกรณีเรื่องราวกระแสดราม่า ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากบนโลกโซเชียลจีน กรณีผู้ปกครองนักเรียนออกมาโวยพร้อมตั้งคำถามถึงครูประถมที่มอบหมายการบ้านให้ลูกชายนับข้าว 10,000 เมล็ดส่ง โดยพวกเขามองว่าการบ้านดังกล่าวไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย และกระทบเวลาการพักผ่อนของทั้งครอบครัว
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น เผยว่า… ครอบครัวชาวจีนจากมณฑลเหลียวหนิง ตั้งคำถามถึงทักษะการสอนที่ไม่ดีของครู และการมอบหมายการบ้านที่ไม่สมเหตุสมผล ซึ่งกำหนดให้นักเรียนต้องนับข้าวสาร 10,000 เมล็ด ทั้งครอบครัวก็นั่งนับกันจนกระทั่งเวลา 02.00 น. ของวันรุ่งขึ้นจึงสำเร็จ การบ้านนี้ทำให้กระทบการพักผ่อนของเด็กและพ่อแม่อีกต่างหาก
ทางด้านผู้ปกครองเกิดความไม่พอใจอย่างมาก ตัดสินใจยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการโรงเรียนทันทีเกี่ยวกับวิธีการสอนของครู พวกเขายังแสดงความสงสัยเกี่ยวกับความสามารถในการสอนของครูด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางด้านครูที่ให้การบ้านได้อธิบายกับผู้ปกครองอย่างใจเย็นว่า… จริงๆ แล้วแบบฝึกหัดนี้ไม่ได้ตั้งใจให้นักเรียนนับข้าว 10,000 เมล็ด แต่ต้องการให้เด็กๆ และผู้ปกครองหาวิธีอื่นที่ง่ายกว่าในการทำแบบฝึกหัดนี้แบบตรงๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความผูกพันระหว่างพ่อแม่และลูก ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความสามารถในการคิดและความคิดสร้างสรรค์ของเด็กเมื่อต้องรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก
นอกจากนี้ จุดประสงค์หลัก คือ การให้เด็กให้ใช้ความคิด พัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ อีกทั้งยังช่วยให้เด็กลดความกดดันในการเรียนทั้งกลางวันและกลางคืนด้วย ซึ่งเมื่อได้ยินคำอธิบายเช่นนี้ ผู้ปกครองก็ประหลาดใจ แต่ก็มองว่าทางครูไม่เคยแจ้งพวกเขาให้ทราบถึงวิธีการเรียนรู้เช่นนี้ ทำให้เกิดความสับสน
ทั้งนี้ หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ทำให้ชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความเห็นกันหลากหลาย โดยชาวเน็ตบางส่วนสนับสนุนวิธีการศึกษาแบบใหม่นี้เพื่อช่วยให้เด็กเรียนรู้และฝึกฝนทักษะต่างๆ มากมาย แทนที่จะเน้นอ่านหนังสือทฤษฎีเพียงอย่างเดียว
ขณะเดียวกันชาวเน็ตบางส่วนมองว่า การมอบหมายการบ้านประเภทนี้ ทางโรงเรียนจำเป็นที่จะต้องบอกผู้ปกครองให้ทราบล่วงหน้า ดังนั้นจึงไม่ผิดอะไรที่จะมองว่าการสอนของครูไม่ดี