น.ส.ธิดารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) เปิดใจกับ หลังจากโพสต์เตือนภัยในเฟซบุ๊ก ถูกคนร้ายใช้มีดจี้ หวังชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายกลางลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่าน พระราม 2 น.ส.ธิดารัตน์ กล่าวว่า… เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา ตนไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 2
โดยไปถึงห้างประมาณ 5 โมงครึ่ง จอดรถที่ชั้น 4 ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากประตูทางเข้า-ออกของฟิตเนสมากนัก พอ 1 ทุ่มครึ่งออกกำลังกายเสร็จ ก็เดินกลับไปที่รถ ระหว่างนั้นก็วิดีโอคอลคุยกับแฟน และใส่หูฟังบลูทูธ พอไปถึงที่รถปรากฏว่ามีรถจอดซ้อนคัน เลยต้องเข็น แล้วเอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋า
พอเข็นรถ จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมากระแทกที่ศอกซ้ายอย่างแรง ตอนแรกเข้าใจว่า หูช้างของรถคันอื่นขับมากระแทกโดน จึงหันไปก็เห็นคนร้าย เห็นมีด และเห็นแขนมีเลือดพุ่งออกมา จากนั้นคนร้ายก็ใช้แขนอีกข้างมาล็อคตนจากด้านหลัง แล้วเอามีดจี้ที่เอวพร้อมกับบอกว่า อย่าร้อง
ตนพยามประคองสติ แล้วถามคนร้ายว่าต้องการอะไร คนร้ายถามว่า… รถอยู่ที่ไหน และพยามจะเปิดรถ ตนก็บอกว่าเปิดไม่ได้ คนร้ายเลยพยามจะดันให้เข้าไปในซอกที่จอดรถ ซึ่งเป็นมุมอับสายตา แต่ตนก็ต้านแรงของคนร้ายไว้
แต่คนร้ายยังพยายามบังคับให้ขึ้นรถ ตอนนั้นเชื่อว่าคนร้ายไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะทั้งก่อนเข้าห้างและออกมา ก็ไม่ได้สวมเครื่องประดับที่มีค่าล่อตาล่อใจ ตอนนั้นคิดว่าถ้าต้องการทรัพย์สินก็สามารถเอากระเป๋าไปได้แล้ว แต่คนร้ายกลับพยายามที่จะให้เข้าไปในรถ ตนจึงออกอุบายว่า… ขี้ราด เยี่ยวราดแล้ว เพื่อที่คนร้ายจะได้ไม่กล้าทำอะไรไปมากกว่านี้
ระหว่างนั้น ก็เชื่อว่าจะต้องมีคนผ่านไปมา เพราะปกติชั้นนั้นไม่ใช่ชั้นที่เปลี่ยว เพราะจะมี รปภ. หรือลูกค้าที่เดินผ่านไปมา สักพักมีรถอีกคันหนึ่งกำลังวนหาที่จอด ตนเลยทิ้งตัวลงไปกับพื้น เพื่อให้คนขับรถเห็น ก่อนที่หญิงที่เป็นคนขับรถเห็นผิดสังเกต จึงลงจากรถมา ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ คนร้ายก็ล้วงไปในกระเป๋าผ้าของตน ได้กระเป๋าเศษเหรียญแล้ววิ่งหนีลงทางบันไดหนีไฟ
จากนั้น หญิงพลเมืองดีก็วิ่งมาช่วยซับเลือด และกล่าวขอโทษตนว่าเค้าไม่ได้ยินเสียง และเห็นตอนแรกนึกว่าเป็นแฟนกำลังยืนคุยกัน แต่พอเห็นเลือดไหลลงมาที่ขาและทรุดนั่งลง จึงผิดสังเกต
ขณะที่ ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า คนร้ายมานั่งอยู่ที่ห้างได้ 3 ชั่วโมง และเดินตามตนมา ก่อนลงมือก่อเหตุ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม สามารถติดตามจับกุม นายนิกร อายุ 27 ปีคนร้ายได้ในวันถัดมา และแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีด
โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ พบว่าคนร้ายนั่งวินจยย.มาจากซอยสะแกงาม 14 มาลงด้านหลังตลาด และนั่งรถประจำทางมาที่ห้างสรรพสินค้า จากนั้นเดินเข้ามาภายในห้างเพื่อก่อเหตุ แล้วออกจากห้างขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไปทางถนนพระรามสอง
ชุดสืบสวน สน.ท่าข้าม ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ในซอยสะแกงาม 14 เจ้าตัวรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ขณะที่ผู้เสียหาย ยืนยันว่าไม่ปักใจเชื่อว่าไม่ตั้งใจลงมือก่อเหตุ และไม่เชื่อในคำให้การที่อ้างว่าประสงค์ต่อทรัพย์เพียงอย่างเดียว เพราะตอนแรกก็ถามแล้วว่าต้องการอะไร ซึ่งหากจะเอาทรัพย์สินไป ก็เอาไปได้ทันที