วันที่ 10 มิ.ย. 2566 จากกรณีน.ส.นันท์นภัส อายุ 45 ปี ชาวประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ร้องเรียนผ่านสื่ออยากให้เป็นตัวกลางไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผิวขาว หลังจากลูกสาวอายุ 19 ปี ทานเข้าไป 1 เม็ดก่อนเดินทางไปตรวจร่างกาย เพื่อเอาผลไปแนบประกอบมอบตัวเรียนคณะเภสัชศาสตร์ ม.ขอนแก่น
แต่ปรากฏว่าแพทย์พบสารเมทแอมเฟตามีน ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกับยาบ้าอยู่ในปัสสาวะ ทำให้แพทย์ไม่กล้าออกใบรับรองแพทย์ให้ ต่อมาโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ไตรวจซ้ำปรากฏว่าไม่พบสารใดๆ ในร่างกาย และเมื่อเจ้าหน้าที่เอาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปตรวจ ก็ไม่พบสารใดๆ เช่นเดียวกัน โดยยังไม่มีใครมายืนยันได้ว่าผลตรวจที่พบในตัวน้องเกิดความผิดพลาดจากจุดใด เพราะการตรวจร่างกายและตรวจเลือดอย่างละเอียดแล้ว
ล่าสุดวันที่ 10 มิ.ย. 2566 เจ้าหน้าที่นำหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์ที่บริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผิวขาว ฟ้องเด็กและแม่เด็ก เป็นจำเลยที่ 1-2 ฐานกล่าวหาละเมิดเรียกค่าสินไหมทดแทนรวม 50 ล้านบาท โดยศาลนัดสืบพยานในวันที่ 31 ก.ค. 2566 นี้ น.ส.นันท์นภัส กล่าวว่า รู้สึกตกใจมากที่ได้รับหมายศาล โดยเฉพาะการเรียกค่าเสียหายถึง 50 ล้านบาท
ครอบครัวคงไม่มีปัญญาหามาให้ได้ ความจริงแล้วครอบครัวต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพิสูจน์ความจริงที่ลูกสาวตรวจปัสสาวะแล้วพบสารแมทแอมเฟตามีนเท่านั้น เพราะลูกสาวเป็นเด็กเรียนไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อยู่กับครอบครัวตลอดเวลา แม้ไปทำงานพิเศษ ยังต้องไปทำงานที่ร้านอาหารเดียวกันที่แม่ทำงานอยู่
ส่วนอาหารเสริมผิวขาว ตนกับลูกสาวไม่เคยพูดชื่อหรือบริษัทที่จำหน่าย ที่ต้องบอกไปเพราะหมอจากโรงพยาบาลเป็นคนซักว่าได้กินอะไรเข้าไป นำมาสู่การเอาตัวอย่างไปให้หมอดู เพราะลูกสาวกินยาเพียงตัวเดียวเท่านั้น
น.ส.นันท์นภัส กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ครอบครัวรู้สึกเป็นทุกข์ เพราะไม่มีปัญญาจะไปต่อสู้กับบริษัทได้ ไม่มีแม้เงินจะจ้างทนายความ ทั้งยังต้องหาเงินส่งลูกสาวเรียนอีกด้วย ตอนนี้เป็นห่วงแต่ความรู้สึกของลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกรงว่าจะกระทบต่อการเรียน เนื่องจากกลายเป็นจำเลยที่ 1 ไปแล้ว