สมจิตร เผยเอง นักกีฬาเลื่อนยศ มีหลักเกณฑ์ชัดเจน ใช้เวลา 27 ปีถึงติดยศ พ.ท.

วันที่ 9 มิ.ย. 2566 พ.ท.สมจิตร จงจอหอ ดารานักแสดง และอดีตนักกีฬามวยสากลสมัครเล่น เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก กล่าวถึงกรณีที่นักกีฬาทีมชาติเข้ามารับราชการทหารว่า… เป็นเรื่องดีที่นักกีฬาติดทีมชาติได้รับโอกาสให้บรรจุเข้ารับราชการ แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวนักกีฬาคนนั้นๆ ด้วยว่าจะสามารถทำผลงานให้ดีขึ้นได้หรือไม่

รวมถึงมีการทำผลงานให้กับหน่วยงานที่ตนสังกัดอยู่หรือไม่ หรือเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทางด้านการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานทหารเพิ่มเติม ทั้งหมดจะมีผลเกี่ยวกับหน้าที่การงานโดยตรง การเลื่อนขั้นของหน่วยงานทหารและหน่วยงานตำรวจจะแตกต่างกัน เพราะเป็นลักษณะโครงสร้างองค์กรที่แตกต่างกัน

ในส่วนของตนที่สังกัดอยู่ในกองทัพ มีระเบียบข้อกำหนดเกี่ยวกับเรื่องของการครองยศอย่างชัดเจน พ.ท.สมจิตร กล่าวว่า… หน่วยงานทหารจะมีความชัดเจนเรื่องของระยะเวลาในการครองยศ ทุกลำดับขั้นจะเรียนและสอบ เพื่อเลื่อนขั้นไปตามขั้นตอน ส่วนตัวเริ่มต้นชีวิตข้าราชการทหารจากการเป็นอาสาสมัครทหารพรานอยู่ 2 ปี ก่อนขยับเป็น สิบตรี ก่อนครองยศอีกหลายปีถึงขยับเป็นสิบโทและสิบเอก

ต่อมามีโอกาสในกีฬามวยทหารโลกและสามารถชนะเหรียญทองกลับมา ซึ่งในส่วนของกองทัพมีข้อกฎหมายในส่วนนี้ว่าหากนักกีฬาคนใดไปชนะรายการกีฬามวยทหารโลกได้ จะติดยศเป็นข้าราชการทหารชั้นสัญญาบัตรในยศร้อยตรี ซึ่งตนได้เหรียญทองจึงเข้าเงื่อนไข รวมถึงยังจบการศึกษาปริญญาตรี จึงได้ยศร้อยตรี และครองยศอีกหลายปีกว่ามาถึงยศร้อยเอก

พ.ท.สมจิตร กล่าวว่า ช่วงนี้ได้ไปต่อยโอลิมปิก จนได้เหรียญทอง และหลังจากยศร้อยเอกก็ครองยศมาอีก 8 ปีกว่าจะได้เลื่อนขั้นเป็นพันตรี นับเวลารวมที่รับราชการมา 27 ปี นับตั้งแต่ปี 2539 จนถึงปัจจุบันที่ติดยศพันโท ซึ่งเลื่อนยศขึ้นมาเมื่อปี 2565

ส่วนกรณีของ 2 อดีตนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นทีมชาติ อย่างมนัส บุญจำนงค์ และวรพจน์ เพชรขุ้ม ที่รับราชการทหารและเปิดประเด็นเกี่ยวกับการเลื่อนชั้นยศนั้น พ.ท.สมจิตร เผยคงต้องกลับไปดูว่าทั้งสองเข้าอบรมหรือเข้าเรียนในหลักสูตรของทหารตามขั้นตอนหรือไม่ เช่น หลักสูตรนายร้อย หรือหลักสูตรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในสายทหาร

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *