วันที่ 30 พ.ค. 2566 นายพิทักษ์ เจ้าของรถ เปิดเผยว่า… หลังจากโดนป้าแม่ค้าแผงลอยขายผักทุบรถพังเสียหาย ทั้งที่จอดในที่จอดรถตามปกติว่า ทุกเช้าตนจะไปขายของที่ตลาดโพธิ์ชัยเป็นประจำ ตั้งแต่เวลา 04.00-10.00 น. จะจอดรถตรงบริเวณบริษัทขนส่งตลอด
วันเกิดเหตุเวลาประมาณตี 4 ตนไปตลาดเพื่อขายของตามปกติ และจอดรถไว้เหมือนเดิมทุกครั้ง หลังจากขายของได้สักพักมีพ่อค้าขายไข่เดินมาบอกว่ามีคนทุบรถตนอยู่ ขณะนั้นช่วงประมาณ 6 โมงเช้า จึงรีบออกไปดูพบว่าคุณป้าที่เป็นคนทุบรถนั้น ยืนอยู่ข้างๆรถพร้อมกับทำสีหน้าไม่พอใจ
ขณะที่ตนเดินไปถึงรถ คุณป้าคนดังกล่าวหยุดทุบรถไปแล้ว และตนถามกับคุณป้าคนนั้นว่าทุบรถทำไม ด้านคุณป้าไม่ตอบอะไร แล้วทำหน้าไม่พอใจใส่ ซึ่งตนคิดว่าน่าจะเป็นเพราะป้าคิดว่าตนจอดบังหน้าร้านขายผัก แต่ที่ตรงนั้นไม่ใช่ที่ขายของอยู่แล้ว เป็นที่จอดรถที่ทุกคนสามารถจอดได้
หลังจากนั้นตำรวจเชิญป้าและตนไปสืบสวนต่อที่โรงพัก แต่เมื่อไปถึงโรงพักได้ไม่นาน คุณป้าได้หนีออกมา จึงทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน ตนเคยเจอคุณป้าท่านนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง นานๆทีจะเห็นมาขายที่ตลาด เพราะต้องรอเก็บผักได้ก่อน ซึ่งเมื่อก่อนคุณป้าขายอยู่ด้านในตลาด แต่เหมือนว่าไปมีปัญหาทะเลาะกับคนด้านในตลาด จึงขยับออกมาขายด้านนอก
สำหรับรถตนได้รับความเสียหายไฟหน้าและไฟท้ายแตก ฝากระโปรงรถยุบ และสีถลอกรอบคัน จากการโดนแผ่นปูนและกรวยที่คุณป้านำมาทุบ ตอนนี้แจ้งความดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว วันนี้ตำรวจกำลังประสานงาน ให้ชุดสืบสวนไปตามคุณป้าคนดังกล่าวที่บ้าน เพื่อมาสอบสวนเพิ่มเติม
รู้สึกโมโหมาก รถเราจอดอยู่ดีๆ มาทำร้ายของเรา อยากฝากถึงคุณป้าว่าก่อนจะทำอะไร ให้คิดดูดีๆก่อน เราขายของอยู่แค่ใกล้ๆ ตรงด้านในตลาด น่าจะเดินไปบอกให้ออกมาขยับรถให้ก็ได้ ถ้าจะขายของตรงนั้น ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะได้รับการรับผิดชอบจากคุณป้าในรูปแบบไหน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าจะให้ลูกของคุณป้ามาพูดคุยเพื่อเจรจาต่อรองต่อไป
ด้าน น.ส.สุทธิดา ลูกสาวผู้ก่อเหตุ บอกทั้งน้ำตาว่า… ตนยังไม่เห็นคลิปที่แม่ทุบรถ บ้านที่อาศัยอยู่กับแม่ตอนนี้ เป็นบ้านที่พี่ชายที่อยู่จังหวัดขอนแก่นซื้อให้ แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อจากเจ้าของบ้านเดิมยังไม่ได้โอน ปกติแม่เก็บผักตามธรรมชาติไปขายที่ตลาด ก่อนนั้นแม่เป็นคนดีกว่านี้ ขยันทำงานหาเงิน มีบ่นบ้างตามประสาคนแก่
แต่ 2-3 ปี ย้อนหลัง หลังจากที่ตนเลิกกับแฟน แม่ก็แปลกจากเดิมไปมาก ไม่เหมือนคนปกติ ตอนนี้ยังถือว่าเบา แต่ก่อนนั้นหนักกว่านี้ ออกจากบ้านตีสอง ตีสาม ไม่รู้ออกไปไหน ตอนแรกตน และญาติๆ คิดว่าโดนผีเข้า ไปหาหมอทรง ซึ่งคนทรงบอกว่ามีคนมาอยู่ด้วย ทางบ้านก็ได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ แต่ก็ไม่ดีขึ้น มาอยู่บ้านหลังนี้ตั้งแต่ปี 2518 ตนก็ทำงานที่ร้านสะดวกซื้อได้ปีกว่า
ยังไม่เห็นคลิปที่แม่ก่อเหตุ ตนก็ได้บอกกับผู้เสียหายแล้วว่าแม่สติไม่ค่อยดี ผู้เสียหายให้มาคุยกับตนได้เลย หรือคุยกับพี่ของตนก็ได้ ลูกสาวผู้ก่อเหตุบอกในตอนท้ายว่า เคยคิดจะพาแม่ไปรักษา แต่ไม่สามารถบังคับแม่ให้ไปรักษาได้ ญาติๆ เคยจะหลอกนำตัวไปรักษา โดยบอกว่า แม่จะไปเที่ยวกันไหม แต่แม่ก็ไม่ไว้ใจ และไม่ขึ้นรถเลย แม่บอกว่า ไม่ไป ไปทำไม บ้านกูอยู่นี่ จนหมดปัญญาที่จะพาตัวไปรักษา