เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ ได้มีการรายงาน เรื่องราว ของชายรายหนึ่งที่ชื่อ Ian Clifford อายุ 50 ปี เป็นพนักงานไอทีของบริษัทแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร โดยในปี 2008 Clifford มีปัญหาด้านสุขภาพจิต เขาจึงตัดสินใจลางาน โดยลาต่อเนื่องไปถึงปี 2013 ซึ่งในปี 2013 เขารับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะที่ 4 ก็เลยต้องลาป่วยต่อไปอีก
ระหว่างที่หยุดงานไปเป็นปีๆ นี้ Clifford ไม่ได้ถูกบริษัทเทนะ แต่เขายังได้รับเงินเดือน ปีละ 54,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนทุพพลภาพของบริษัท แต่ทว่าปัญหาก็ดันมาเกิดขึ้น เมื่อ Clifford รู้สึกข้องใจมาก เพราะตลอด 5 ปี ที่เขาลาป่วย ทางบริษัทกลับไม่ขึ้นเงินเดือนให้เลย
Clifford จึงตัดสินใจร้องทุกข์กับบริษัท ซึ่งทางบริษัทก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ได้ยื่นข้อเสนอ คือ บริษัทจะจ่ายเงินเดือนให้ Clifford ทุกเดือน โดยที่เขาไม่ต้องมาทำงานจนกว่าจะหายป่วย เกษียณอายุ หรือเสียชีวิต สำหรับเงินเดือนที่ Clifford จะได้รับทุกเดือนนั้น คือ 75% ของเงินปกติที่เขาได้รับ ตามแผนทุพพลภาพของบริษัท
ซึ่งในตอนแรก ดูเหมือนว่าจะตกลงกันได้ แต่ทว่าในปี 2022 Clifford กลับฟ้องบริษัทว่า ปฏิบัติกับเขาอย่างไม่เป็นธรรม เหตุผลก็เหมือนเดิม คือ บริษัทไม่ได้ขึ้นเงินเดือนให้เขาตั้งแต่เข้าร่วมแผนในปี 2556 หรือก็คือปีที่ทำข้อตกลงว่าจะจ่ายให้เดือนละ 75% Clifford อ้างว่า…
บริษัทต้องขึ้นเงินเดือนให้เขา เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อสูงมาก อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาไม่ได้เข้าข้าง Clifford โดยให้เหตุผลว่า คดีนี้มีแต่ Clifford ที่ได้ผลประโยชน์ และสิ่งที่บริษัทปฏิบัติกับเขานั้น มันดีกว่าคนที่ไม่พิการเสียอีก เพราะเขาได้รับค่าจ้างโดยไม่ต้องทำงาน นั่นแหละ
สุดท้ายคดีนี้ก็ถูกยกฟ้อง บริษัทไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม ส่วน Clifford โดนโซเชียลถล่มเละเลย โดยหลายคนบอกว่า เป็นเพราะความโลภของเขา