น.ส.ปาริชาต กลั้งกลาง อายุ 40 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ได้ออกมาเปิดใจจากกรณีที่เธอโพสต์คลิปอุทาหรณ์เตือนภัยคนที่อยากจะเข้ามาในวงการหนี้นอกระบบ หลังเธอไม่มีทางเลือกตัดสินใจกู้เงินรายวัน กู้มาเรื่อย ๆ นานนับปี พีกสุดต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละ 40,000 กว่าบาท ถลำลึกถึงขั้นเกือบปลิดชีพตัวเองเพื่อหนีปัญหา
โดย น.ส.ปาริชาต เปิดเผยถึงสาเหตุว่าทำไมถึงตัดสินใจกู้เงินนอกระบบว่า จุดเริ่มต้นคือตนเองออกจากงานประจำ เพื่อออกมาช่วยงานสามี นั่นคือ รับเหมาก่อสร้าง ประกอบกับเล่นแชร์ด้วย แต่สุดท้ายบ้านแชร์ล้มเสียไปประมาณ 3 ล้านบาท ทุกอย่างพังหมด แต่ก็ต้องเดินหน้าต่อ จำเป็นต้องมีเงินหมุนเวียนธุรกิจ ต้องมีเงินจ่ายค่าจ้างช่าง
ซึ่งตอนนั้นตนเองไม่กล้าจะไปหยิบยืมใคร และไม่สามารถกู้เงินในระบบได้ เนื่องจากติดแบล็คลิสต์ เครดิตบูโร กันทั้งคู่ ทำให้ตนเองตัดสินใจไปกู้เงินรายวันเพื่อเอาใช้หมุนเวียนธุรกิจ โดยไม่ได้บอกใครแม้กระทั่งสามี จากนั้น น.ส.ปาริชาต เล่าต่อว่า ไปหาแหล่งเงินกู้จากเฟซบุ๊ก เริ่มกู้ครั้งแรกตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2565 ได้ยอด 20,000 บาท และมีน้องคนค้ำประกันช่วยกู้ให้อีก 20,000 บาท รวมเป็น 40,000 บาท เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ ตลอด 1 ปี
ช่วงไหนที่ไม่มีเงินจ่ายค่าจ้าง ไม่มีเงินจ่ายดอกเบี้ย ก็ไปกู้มาใหม่ โดยไปหาเจ้าอื่น รวมแล้วกว่า 20 เจ้า รวมยอดทั้งหมดประมาณ 8 แสนบาท ถ้าหากว่ากู้ 10,000 ดอกเบี้ย 2,000 บาท 24 วัน แต่ส่วนมากไม่ถึง 24 วัน ประมาณ 14 วันก็ไปขอเขาตัดยอด เอายอดที่ตนเองส่งมาใช้ เขาก็จะนับ 1 ใหม่ และคิดดอกเบี้ยใหม่
ส่วนประเด็นที่มีชาวเน็ตเข้าไปเข้าเมนต์ว่า จ่ายดอกเบี้ยวัน 40,000 บาท เป็นคอนเทนต์นั้น น.ส.ปาริชาต กล่าวว่า เรื่องจริง ไม่ใช่คอนเทนต์แน่นอน มาที่โคราชได้เลย เนื่องจากพอน้องคนที่ช่วยค้ำประกันเริ่มตัน ตนเองจึงไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนอีกคนหนึ่งให้กู้ให้ตนเองอีก จากนั้นตนเองก็เป็นคนส่งยอดทั้งหมดเอง เพราะไม่อยากให้ใครต้องเดือดร้อนเพราะตนเอง ไม่อยากทิ้งภาระไว้ให้คนข้างหลังรับผิดชอบแทนตนเอง ทำไม่ได้จริงๆ
ส่วนด้านความสัมพันธ์กับสามี นางสาวปาริชาต กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ได้คุยกันแล้ว เขาคงถึงที่สุดของเขา ไม่สามารถช่วยเราได้เหมือนกัน เนื่องจากตัวสามีเองก็มีลูกติด ซึ่งตอนนี้ตนเองก็เหมือนไปเป็นภาระของเขา ไปฉุดให้เขาล้มลงไปกับตนเองด้วย ซึ่งตนเองก็เข้าใจ เพราะก็ไม่มีใครรู้ว่าจะต้องเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ และต้องหาอีกเท่าไหร่ถึงจะปิดยอดได้
น.ส.ปาริชาต ยังเปิดเผยอีกด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้คิดสั้นและสั่งลาพ่อแม่ไว้เรียบร้อย แต่ก็อยากลงคลิปเพื่อเตือนใจทุกคนว่าอย่าเข้ามาในวงการนี้ อย่าถลำลึก หยุดได้หยุด แต่หลังจากลงคลิปไป คุณพ่อก็โทรมาเตือนสติว่าให้คิดดี ๆ ให้นึกถึงตัว ถ้ายังอยู่ก็ยังมีทางออก พร้อมกับบอกหลังจากโพสต์คลิปดังกล่าวไป และได้รับคุยกับคุณพ่อคุณแม่ก็มีกำลังใจมากขึ้น
ประกอบกับมีคนมาคอมเมนต์ให้กำลัง ช่วยแนะทางออกให้ แต่ก็มีบางคนที่ซ้ำเติมว่า ก็ทำตัวเองทั้งนั้น ซึ่งตนเองเข้าใจทุกมุมมอง และกลับมาคิดกับตัวเองได้ว่า หากว่าตนเองสู้ต่อ จะสามารถช่วยเป็นแนวทางให้กับคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับตนเอง มาหาทางออกมันน่าจะเกิดประโยชน์มากกว่า และสามารถช่วยใครหลายๆ ได้
ตอนนี้ตนเองตัดสินใจว่าจะสู้ ไม่หนี และนำคำแนะนำของทุกคนมาปรับใช้ ซึ่งจากที่ตนเองศึกษาดูพบว่ามีหลายคนที่สามารถปิดยอดได้ แต่ร้อยละ 90 หนีทั้งนั้น และไม่คิดว่าจะมีคนกู้นอกระบบเยอะขนาดนี้ เพราะหลังจากที่โพสต์คลิปลงไปมีคนเข้ามาทักปรึกษากันเยอะมาก จนถึงต้องตั้งกลุ่มเอาไว้พูดคุยกัน และเชื่อว่าคนไทยน่าจะติดแบล็กลิตส์ เครดิตบูโรกันเยอะ ไม่เช่นนั้นคงไม่กู้นอกระบบกันเยอะขนาดนี้
ส่วนทางออกของปัญหาตอนนี้ น.ส.ปาริชาต เล่าว่าตอนนี้ตนเองใช้วิธีการพูดคุย ซึ่งหลายเจ้าก็คุยได้ ยอมผ่อนปรนให้ และลดให้ทุกเจ้า ทั้งนี้ตนเองยังเข้าไปขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรม แต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ มีแต่คำตอบบอกให้ทำใจ สุดท้ายนี้ น.ส.ปาริชาต ยังฝากไปถึงคนที่คิดจะก้าวเข้ามาในวงการนี้ด้วยว่า คงบอกว่า อย่าไปกู้เลย คงพูดไม่ได้
เพราะบางคนมันเลือกไม่ได้จริงๆ อย่างตนเองที่ตัดสินใจกู้ก็เพราะไม่มีทางออกจริง ๆ แต่ถ้ากู้ไปแล้วอย่าให้ถึงขั้นถลำลึกจนเอาดอกมาชนดอกแบบนี้ ให้อยู่ในลิมิตที่ตัวเองไหว และถ้าสามารถหยิบยืมเพื่อนฝูงหรือญาติได้ ไปทางนั้นดีกว่า เพราะมันทรมานมาก ทุกวันนี้ไม่มีวันไหนที่นอนหลับสนิทได้สักวันเดียว