จากกรณีที่ นายเอ (นามมสมมติ) อายุ 18 ปี ได้แจ้งว่า เมื่อช่วงเช้าตรู่วันนี้ แฟนเก่าของตน ได้นัดหมายให้ไปพบที่บริเวณท่าน้ำปากเกร็ด ใต้สะพานพระราม 4 ตนจึงเดินทางไปตามนัด เพราะแฟนเก่าบอกว่าโสด และยังไม่มีแฟนใหม่
กระทั่งเมื่อถึงเวลานัดหมาย ตนจึงได้มาพบกับแฟนเก่าที่ขี่รถจักรยานยนต์มา ชวนตนออกไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มพร้อมซื้อของมานั่งกินกันที่ท่าน้ำ หลังนั่งพูดคุยทุกข์สุขกันประมาณ 15 นาที แฟนเก่าได้อ้างว่า หิวข้าวจะออกไปหาซื้อข้าวแถวนี้กิน จากนั้นได้ขี่รถออกไป แต่จากนั้นไม่นาน มีชายวัยรุ่น 2 สองคนสวมหมวกกันน็อกและสวมเสื้อคลุม เดินปรี่เข้ามาหา
ตนเห็นท่าไม่ดีจึงเดินเข้าไปหาเพื่อจะคุยด้วย แต่ถูกชายคนหนึ่งหยิบมีดปลายแหลมวิ่งเข้าหา ตนจึงวิ่งหลบหนีไปที่โป๊ะเรือข้ามฟาก แต่ 2 วัยรุ่นได้ถือมีดไล่ตามมา จนตนจึงตัดสินใจหนีตายด้วยการกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งก่อนกระโดดตนได้นำไอโฟน 11 สีเขียว วางไว้ที่โป๊ะเรือ เนื่องจากกลัวโทรศัพท์ได้รับความเสียหาย
แม้ตนโดดน้ำหนีแล้ว 2 วัยรุ่นยังเอามีดปลายแหลมปาใส่ตนในน้ำ ตนว่ายน้ำหนีออกไปขึ้นอีกท่าเรือหนึ่ง โดยระหว่างที่ว่ายน้ำหนี ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากคนขับเรือให้เข้ามาช่วย แต่ถูกปฏิเสธ แถมโดนด่าอีกว่า ให้แม่งแทงกันให้ตายไปเลย ตนว่ายน้ำอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง จึงสามารถไปขึ้นที่โป๊ะท่าเรือที่อยู่ติดกันได้
เมื่อวนกลับมาหาไอโฟนที่วางไว้ พบว่าได้หายไปแล้ว จึงเชื่อว่า 2 วัยรุ่น เป็นคนเอาไอโฟนตนไปด้วย นายเอ เล่าต่อว่า หลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความกับผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนแล้ว โดยตนจำคำพูดที่ 1 ในวัยรุ่นตะโกนใส่ตนตอนที่ว่ายน้ำหนีได้ว่า… มึงจำกูไว้นะ กูชื่อแบงค์ กูมาหามึงทุกวัน กูมาหามึงทุกวันอยู่แล้ว วันนี้มึงพลาดเอง เดี๋ยวกูมาอีก มึงเจอกูแน่ไม่ต้องกลัว
จากนั้นตนได้ไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดทางเทศบาล พบว่า อดีตแฟนสาวตน เป็นคนขี่รถพา 2 วัยรุ่นซ้อนมาจอดรอตนอยู่ที่ลานจอดรถใกล้เคียงก่อนแล้ว ก่อนที่แฟนเก่าจะเดินเข้ามาหาตน และทำทีชวนให้เดินออกมากดเงินเป็นเพื่อน ก่อนถูกไล่ทำร้าย หากตนไม่กระโดดน้ำหนี คงถูกแทงตายไปแล้ว
ส่วนผู้ก่อเหตุที่ชื่อ แบงค์ เป็นแฟนคนปัจจุบันของแฟนเก่าตน ซึ่งเคยมีปัญหากันกับตน ตอนที่ตนไปทวงกระเป๋าของพี่สาวคืนจากแฟนเก่า จนทำให้ นายแบงค์ เกิดความไม่พอใจ และท้าทายตนให้มาเจอ แต่เรื่องก็ผ่านมาเกือบปีแล้ว ตอนนี้ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย หาก นายแบงค์กับเพื่อนอีกคนยังไม่ถูกจับ ก็อาจย้อนไล่กลับมาทำร้ายตนอีก